ดีแทคขยายธุรกิจสู่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือEVที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษ ฝุ่นควันบนท้องถนน ทางเลือกใหม่ในการใช้ชีวิตของคนเมืองที่สนุกกับสมรรถนะในการขับขี่ พร้อมกับประหยัดค่าใช้จ่าย ดีเดย์เริ่มทำตลาดเต็มรูปแบบในเดือนมิ.ย.62 นางอเล็กซานดรา ไรช์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ปัญหามลพิษ ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืน สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหนึ่งในแนวทางแก้ปัญหาคือ การเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าEVที่นอกเหนือจากจะช่วยบรรเทาปัญหามลพิษทางการอากาศอย่างยั่งยืน ดังเช่น หลายเมืองในสาธารณรัฐประชาชนจีนรณรงค์ให้ประชาชนใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า อันเป็นกลยุทธ์สำคัญของแผนการพัฒนาเมืองที่กำลังเติบโต การใช้รถไฟฟ้าอย่างแพร่หลายยังสามารถช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อสิ่งแวดล้อมของไทยได้ สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้ EVนโยบายทางภาษี ในการผลิตEVในประเทศไทย ทั้งนี้ดีแทคในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มEV Connectivityจะเป็นผู้ที่เชื่อมโยงผู้ผลิตรถไฟฟ้าEVบริษัทประกัน บริษัทเช่าซื้อและสถาบันการเงินและสินเชื่อ บริการเปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่หลายจุดทั่วกรุงเทพฯ บริการการรับชำระเงินผ่านระบบบิลลิ่งของดีแทคและพันธมิตร รวมถึงบริการซ่อมบำรุงหลังการขาย ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการใช้งานของลูกค้า ซึ่งเข้าถึงบริการต่างๆได้ผ่านการเชื่อมต่อของซิมดีแทค ไตรเน็ต ซึ่งเป็นหัวใจในการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน “ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าEVโดยบริการทั้งหมดได้ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกันผ่านแอปพลิเคชั่นเดียว ที่ให้ความสะดวกและความคุ้มค่าที่นอกเหนือจากการใช้งานบนฟีเจอร์การขับขี่ปกติ เช่น เช็คสถานะแบตเตอรี่ ชำระค่าเปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่ การแจ้งระยะทางและระบบอำนวยความสะดวกในการค้นหาเส้นทางการเดินทาง ระบบกันขโมย การกำหนดความเร็วสูงสุด แล้วยังสามารถชำระค่าเช่าซื้อ การรับประกันได้อีกด้วย นอกจากนี้ ดีแทคและกลุ่มพันธมิตรยังจัดเตรียมความพร้อมด้านบริการหลังการขายและการซ่อมบำรุงครบวงจร” สำหรับในเฟสแรก ดีแทคและฟอร์ทสมาร์ท ร่วมกันเปิดจุดบริการชาร์จไฟฟ้าและเปลี่ยนแบตเตอรี่ผ่านตู้อัจฉริยะในพื้นที่ทดลองให้บริการในกรุงเทพฯ และจะขยายจุดบริการเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต ส่วน เอ็ม วิชั่น เป็นตัวกลางประสานงานกับผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยดีแทคพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ ที่จะเข้ามาร่วมมือกัน เพื่อช่วยผลักดันให้ไทย เกิดห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมEVในเฟสต่อไป โดยผู้ใช้งานแพลตฟอร์มEV Connectivityของดีแทคจะได้ประโยชน์ในการใช้งานที่สำคัญคือ 1.ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ได้มากกว่าจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าถึง50% และ2.สะดวกสบาย ด้วยการมีแอปพลิเคชัน ในการควบคุม ขับขี่ได้ง่าย ไม่เกิด ฝุ่นควันพิษ ไม่มีเสียงดัง บำรุงรักษาง่าย รวมถึงสามารถทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้บนแอปพลิเคชั่นเดียว 3.มีพันธมิตรผู้ผลิตหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ทั้งจากผู้ผลิตแบรนด์จีน และยุโรป ที่พร้อมใช้ด้วยแอปพลิเคชันเดียวกัน “การให้บริการแพลตฟอร์มEVconnectivityในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกในการขยายธุรกิจที่เป็นมากกว่าผู้ให้บริการมือถือของดีแทค เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการกลับมาเติบโตในธุรกิจอีกครั้ง รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายใต้แพลตฟอร์มของดีแทค จะเริ่มทำตลาดเต็มรูปแบบในเดือนมิ.ย.62 โดยจะมีรุ่นที่เข้าร่วมเบื้องต้น3-5รุ่น โดยดีแทคมีแผนที่จะวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้” นายโอภาส เฉิดพันธุ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเห็นถึงโอกาสในตลาดEVของไทย โดยเราเป็นผู้จัดงานBangkok EV Expoซึ่งเป็นงานโชว์-จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า และการความร่วมมือกับดีแทคและบุญเติมครั้งนี้ยังจะช่วยส่งเสริมให้ตลาดEVในประเทศไทยมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังสนับสนุนบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2ทางได้แก่ ทางด้านการจัดการ และการร่วมมือกับพันธมิตรจำหน่ายยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งการร่วมมือดังกล่าวยังจะช่วยลดปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก หรือPM2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพของประชาชน และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวหลังพบเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องในปัจจุบัน เพราะว่าการจำหน่ายยานยนต์ครั้งนี้เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้มลพิษทางอากาศลดลง และตอบสนองนโยบายของหน่วยภาครัฐที่ต้องการลดมลพิษทางอากาศ จากการเผาและควันจากรถยนต์ที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ นายพงษ์ชัย อมตานนท์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือFSMARTกล่าวว่า“ในนามของFSMARTและบริษัทในเครือมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือครั้งนี้ โดยFSMARTและบริษัทในเครือจะเข้าไปดูแลในส่วนของการให้บริการสถานีชาร์จและเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผ่านตู้อัจฉริยะที่เตรียมให้บริการในอนาคต ตามสถานที่และจุดบริการต่างๆ อาทิ แหล่งชุมชน สถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น โดยอาศัยจุดแข็งการบริหารจัดการด้านทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม พร้อมขยายจุดให้บริหารจากตัวแทนที่มีอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ จากการพัฒนาที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในรูปแบบการติดตั้งบริเวณออฟฟิศ คอนโดและการติดตั้งในบ้านพักอาศัยและเตรียมติดตั้งเพื่อให้บริการตามสถานที่ต่างๆในปีนี้ สำหรับการให้บริการชาร์จไฟฟ้าและเปลี่ยนแบตเตอรี่ในครั้งนี้ นอกจากบริษัทฯจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐเพื่อลดปัญหาทางด้านมลพิษทางอากาศและรักษาสิ่งแวดล้อม ยังเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจหลักของบริษัทฯที่มุ่งเน้นในการเพิ่มความสะดวกให้กับทุกชมชน ตลอดจนสรรหาและพัฒนารูปแบบบริการให้มีคุณภาพและหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด