เจาะเฟรม/การะเกด
ว่ากันว่า สิ่งหนึ่งที่ร้อยรัดมนุษย์เข้าไว้ด้วยกันก็คือ ความรัก
แต่แท้จริงแล้ว แบบไหนถึงจะเรียกว่าความรัก
ครอบครอง หรือ ปล่อยวาง
อย่างแรก เป็นสิ่งเข้าใจได้ เพราะในความเป็นชีวิต เราถูกโอบกอดด้วยความรักมาตั้งแต่ลืมตาดูโลกจากพ่อแม่ จากครอบครัว
แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งความรักที่แท้จริงคือการปล่อยวาง
ปล่อยวางเพื่อให้ชีวิตได้เติบโต เพื่อส่งต่อความรักให้กับชีวิตรุ่นถัดไป เพราะในความเป็นจริง ไม่มีใครจะสามารถครอบครองสิ่งใดไปได้ตลอด ถ้าไม่ใช่ของที่เรารักถูกพรากจาก ก็เป็นตัวเราเองที่พรากจาก
ครอบครอง กับ ปล่อยวาง จึงเป็นองค์ประกอบของความรักที่แท้จริง
ที่ผ่านมา HOW TO TRAIN YOU DARGON เป็นหนังที่บอกเล่าถึงเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะกับตอนล่าสุดที่น่าจะเป็นบทสรุปที่ทำให้เราถึงปรากฏการณ์ที่ว่าได้อย่างชัดเจน
HOW TO TRAIN YOU DARGON ในภาคแรก เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ฮิคคัพ ชาวไวกิ้งที่ทั้งหมู่บ้านดูจะเป็นอริกับมังกร ประมาณว่าเจอที่ไหนก็ต้องจับต้องฆ่า เด็กจะโตเป)นผู้ใหญ่ที่สมบูรร์ก็ต้องผ่านหลักสูตรการรบกับเหล่ามักกรเสียก่อน
แต่กับ ฮิคคัพ นั้นไม่ใช่ ถึงเขาจะเป้นถึงลูกชายหัวหน้าหมู่บ้าน แต่เขาก็ไม่ได้อยากจะฆ่ามังกร วันหนึ่งเมื่อมังกรเข้ามาโจมตีหมู่บ้าน ฮิคคัพ ยิ่งมังกรตัวหนึ่ง มันไม่ตายแต่บาดเจ็บ เขาตามจนเจอตัว แต่ฆ่าไม่ลง ถมยังเลี้ยงดูปกป้องมัน ทำหางเทียมให้มันเพื่อที่มันจะได้บินขึ้นฟ้ากันอีกครั้ง นั่นหมายหมายถึงมิตรภาพและคใมรักระหว่างคนกับมังกรจึงเริ่มต้นขึ้น และนำมาสู่ภาคสองที่เขาต้องออกต่อสู้กับคนที่ชอบล่ามังกร พร้อมๆกับวัยเด็กที่เติบโตขึ้นเป็นวัยรุ่นก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งในภาคนี้เองที่เขาได้พบกับแม่ที่จากเขาไปตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งที่แลกมาก็คือชีวิตของพ่อในการรบ
ถึงภาคสุดท้าย เขาดูจะเป็นหนุ่มเต็มตัวพร้อมกับภาระหน้าที่ในการดูแลทั้งคนในปกครองและทั้งมังกรที่ดูจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องเจอกับศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของนักล่ามังกร
แต่ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าเขี้ยวกุดที่ดูจะเป็นหนุ่มขึ้นก็ได้เจอกับมังกรสาวพันธ์เดียวกัน ที่ถูกเรียกว่า เพลิงนวล เพราะมันมีสีขาวสะอาด ที่ทำให้เจ้าเขี้ยวกุดหลงรักอย่างหัวปักหัวปำ
หรือนี่คือการมาถึงเวลาแห่งการพรากจาก
มิตรภาพและความรักที่ ฮิคคัพ กับ เขี้ยวกุด ด้านหนึ่งมันก็เป็นเหมือนโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นที่ร้อยรัดทั้งสองไว้ด้วยกัน มันอยู่ที่ว่า ใครจะเป็นฝ่ายปลอยก่อน
การอยู่ด้วยกัน การพึงพาซึ่งกันและกันมาเป็นเวลานาน นั้นไม่ใช่สิ่งผิด แต่มันทำให้เห็นในอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าเรายึดตรงนี้มากไป ก็อาจทำให้เราไม่ได้มีสายตาไปมองสิ่งอื่นๆ และลืมไปว่า ทุกอย่างย่อมมีการเติบโต
ทั้งเขี้ยวกุด ทั้ง ฮิคคัพ ล้วนเติบโต และสิ่งที่จะบ่งชี้ให้เห็นถึงการเติบโต คงไม่พ้นการการพรากจาก
ชีวิตย่อมโบยบิยด้วยปีกของตัวเองฉันใด ทั้ง เขี้ยวกุด ทั้งฮิคคัพ ก็เป็นอย่างนั้น เพียงแต่ว่าเขาจะเรียนรู้การปล่อยวางอย่างไร
ในบทสรุปของหนัง มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ แน่นอนว่า มังกร ย่อมมีที่ทางมีแผ่นดินของมันที่เหล่ามังกรจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องพึงพิงมนุษย์ ในขณะที่มนุษย์ก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะต้องมาคอยป้องกันมังกรจากเหล่านักล่า เพราะความเชื่อที่ว่า มังกรคือปีศาจร้าย ไม่อาจอยู่ร่วมแผ่นดินกับมนุษย์ได้
แต่ในที่ทางของทั้งสองมีความรออยู่ไม่ใช่หรือ
รักที่เริ่มต้นด้วยการครอบครองก่อนการปล่อยวาง
ฮิคคัพได้แต่งงานกับเพื่อนรัก มีครอบครัว มีลูกสาวลูกชายที่น่ารัก ซึ่งเขาคงจะเล่าเรื่องราวของมังกรให้ลูกๆฟัง เหมือนอย่างที่พ่อเขาเคยเล่าให้เขาฟัง พร้อมกับภาระแห่งการเป็นผู้นำของเผ่า
ส่วนเขี้ยวกุดเองก็ได้อยู่กับเพลิงนวล มีลูกในแผ่นดินของตัวเอง
หรือที่สุดแล้ว การพรากจากกับการครอบครองล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน เพราะลูกของเราเมื่อเติบโต เขาย่อมมีเส้นทางแห่งชีวิตที่จะเดินไปจากอ้อมอกของเรา ไม่ต่างไปจากเราที่เดินออกมาจากก้อมอกของพ่อแม่
ปีกมีไว้โบยบินฉันใด สองเท้าก็มีไว้สำหรับการก้าวเดินฉันนั้น
HOW TO TRAIN YOU DARGON 3 มิใช่เพียงหนังเพื่อดูเอาสนุก แต่มันให้มุมคิด เหมาะอย่างยิ่งที่จะดูเพื่อเลาให้เด็กฟังว่า วันหนึ่ง เขาจะเป็นเช่นตัวละครในหนังที่เขาได้ดู
แต่กับเราเอง เราพร้อมแค่ไหน ในวันที่ลูกเดินจากไปจากอ้อมอก เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องเดินจากไปอยู่ดี
ภาพจาก www.siamzone.com