ปัญหาความขัดแย้งในสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด ยังไม่จบ หลังจากได้มีการกำหนดจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี2561 ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 ต่อมามีมติคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 เลื่อนวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีมาเป็นวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 ณ หอประชุม 100 ปีกระทรวงมหาดไทย ต.คลองหก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยล่าสุดได้เกิดกระแสความไม่พอใจต่อ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หลังออกหนังสือด่วนที่สุดเรื่อง การเดินทางไปเข้าร่วมประชุมใหญ่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทยมองว่า การออกหนังสือดังกล่าว มีสาระสำคัญเป็นการขัดขวางมิให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด ซึ่งนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ เป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์อยู่ (รักษาการ) ได้เดินทางไปประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหกรณ์ออมทรัพย์ฯได้โดยสะดวก อันอาจมีสาเหตุเนื่องมาจาก ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งนี้ มีวาระที่สำคัญ 3 วาระ คือ การเลือกตั้งประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งนายสุทธิพงษ์ฯ ดำรงตำแหน่งมาครบวาระ 2.การเลือกตั้งกรรมการดำเนินการแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 8 คน ซึ่งมีกรรมการดำเนินการชุดเดิมและเป็นกลุ่มที่ประกาศตัวสนับสนุนนายสุทธิพงษ์ฯ ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์อีกหนึ่งสมัย ลงสมัครด้วย และ3.การแก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ที่เสนอโดยสมาชิกสหกรณ์ร่วมลงชื่อกันเสนอเกี่ยวกับสัดส่วนที่มาของกรรมการดำเนินการสหกรณ์ที่แต่เดิมกำหนดให้มาจากข้าราชการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และข้าราชการส่วนท้องถิ่นฝ่ายละเท่ากัน ซึ่งทางสมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ขัดกับกฎหมายสหกรณ์และขัดต่อหลักประชาธิปไตย อีกทั้งไม่เป็นธรรมต่อสมาชิกส่วนใหญ่ซึ่งล้วนเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นเกินร้อยละ 80 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทสไทย จึงได้ออกแถลงการ ระบุความว่า การกระทำของนายสุทธิพงษ์ฯ และกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดปัจจุบันมีเจตนาอย่างชัดแจ้งว่า ต้องการขัดขวางสมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่ซึ่งอยู่ในต่างจังหวัด ที่มีความไม่พอใจต่อการบริหารงานของนายสุทธิพงษ์ฯ และคณะกรรมการชุดปัจจุบันที่ได้มีมติโอนหนี้ของผู้กู้กว่า4,000 รายมูลหนี้กว่า 1,000 ล้านบาท ไปให้สมาชิกสหกรณ์ที่เป็นผู้ค้ำประกันให้รับผิดชอบแทน สร้างความทุกขเวทนาแก่สมาชิกสหกรณ์ซึ่งเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นชั้นผู้น้อย มีรายได้ต่อเดือนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่กลับถูกบีบคั้นจากนายสุทธิพงษ์ฯและคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯชุดปัจจุบัน ให้ต้องมารับผิดชอบหนี้ของผู้กู้แทน ซึ่งไม่เคยมีสหกรณ์แห่งใดในประเทศไทยดำเนินการเช่นนี้มาก่อน จึงเป็นสาเหตุทำให้สมาชิกสหกรณ์จำนวนมากต้องเดินทางไปประท้วงมติของคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯดังกล่าวถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 และเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมาแต่ก็มิได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด สมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทยในฐานะเป็นองค์กรกลางที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากข้าราชการส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์แห่งนี้ ให้ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมกลับคืนให้แก่ข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของนายสุทธิพงษ์ฯและคณะในครั้งนี้ จึงขอเรียกร้องให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ในฐานะอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งมีหน้าที่ต้องส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งองคาพยพที่เกี่ยวเนื่องกันให้มีความเข้มแข็งและมีความสุข สงบ เรียบร้อย ดำเนินการดังนี้ 1.ให้ยกเลิกหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ด่วนที่สุด ที่ มท ๐๘๐๘.๒/๔๗๖ ลงวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เรื่อง การเดินทางไปเข้าร่วมประชุมใหญ่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยทันที เนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขัดต่อหลักธรรมาภิบาล ขัดต่อหลักการสหกรณ์ที่ต้องส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกสหกรณ์ได้มีส่วนร่วมในการประชุมใหญ่อย่างทั่วถึง มิใช้ขัดขวางหรือข่มขู่คุกคามดังที่ความปรากฏในหนังสือฉบับดังกล่าว 2.ให้มีหนังสือแจ้งให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ อำนวยความสะดวกให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นทุกคนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือสหกรณ์ใดๆ ก็ตามให้เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญ หรือวิสามัญ เพื่อธำรงไว้ซึ่งการส่งเสริมสนับสนุนหลักการแห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื่องจากกิจการสหกรณ์เป็นเสมือนโรงเรียนสอนประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานที่ให้สมาชิกหนึ่งคนมีสิทธิเพียงหนึ่งเสียงเท่าๆ กันมิได้ให้อำนาจหรืออภิสิทธิ์แก่บุคคลใดหรือคณะบุคคลกลุ่มใด กลุ่มหนึ่งเป็นสิทธิ์ขาดโดยเฉพาะ 3.ให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ในฐานะอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น วางตัวเป็นกลาง ไม่มีอคติปฏิบัติตนลำเอียงเข้าข้างกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองหรือพวกพ้อง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในการเลือกตั้งประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ และกรรมการสหกรณ์ในครั้งนี้ 4.ให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ประกาศถอนตัวจากการที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลจะเสนอชื่อให้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ และให้ประกาศห้ามมิให้บุคคลใด หรือกลุ่มบุคคลใด อ้างหรือนำชื่อของท่านไปเป็นเครื่องมือแสวงหาประโยชน์ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อให้เป็นคุณหรือเป็นโทษต่อผู้สมัครหรือกลุ่มผู้สมัครเป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ หรือกรรมการดำเนินการสหกรณ์ 5.ขอให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ถอนตัวจากการเป็นประธานในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 โดยให้รองประธานกรรมการดำเนินการปฏิบัติหน้าที่แทน เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง และเพื่อให้เกิดบรรยากาศเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด 6.ขอให้ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ ปฏิบัติต่อสมาชิกสหกรณ์เท่าเทียมกัน ใช้หลักประชาธิปไตยในการดำเนินการการประชุม ให้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางในทุกๆ ระเบียบวาระการประชุม ห้ามมิให้มีการยึดไมค์โครโฟน หรือห้ามมิให้มีการปิดไมค์โครโฟนเพื่อห้ามสมาชิกอภิปราย เหมือนการประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา อันเป็นการกระทำในลักษณะปิดกั้นหรือขัดขวางการใช้สิทธิในการอภิปรายแสดงความคิดเห็นของสมาชิก อันเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ และข้อบังคับสหกรณ์ 7.ขอให้อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์เข้าร่วมประชุมหรือส่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าร่วมประชุมเพื่อสังเกตการณ์ เนื่องจากสหกรณ์แห่งนี้ ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อาจใช้อำนาจบังคับข่มขู่คุกคามห่มแหงรังแกสมาชิกสหกรณ์ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยให้เกรงกลัวได้ ทำให้การประชุมอาจเป็นไปโดยไม่ชอบธรรม และหากการประชุมดังกล่าวมิได้ดำเนินการให้ไปตามข้อบังคับของสหกรณ์หรือพระราชบัญญัติสหกรณ์ ขอให้นายทะเบียนสหกรณ์หรือผู้แทนใช้อำนาจสั่งให้แก้ไขหรือทักท้วงในที่ประชุมโดยทันที เพื่อมิให้การประชุมดังกล่าวเป็นโมฆะในภายหลังได้ ++++++++++++++