กรมส่งเสริมการเกษตร เสริมการผลิตต้นพันธุ์สตรอว์เบอร์รีปลอดโรค มีลักษณะดี ตรงตามความต้องการของตลาด ส่งต่อเกษตรกรแปลงใหญ่ แก้ปัญหาต้นพันธุ์สตรอว์เบอร์รีที่มีคุณภาพและปลอดโรคมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก
วันนี้ (5 ก.พ.62) นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์เกษตรกรผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีในเขตพื้นที่ภาคเหนือในขณะนี้ พบปัญหาเกษตรกรแปลงใหญ่สตรอว์เบอร์รีอำเภอสะเมิง คือ ต้นพันธุ์สตรอว์เบอร์รีที่มีคุณภาพและปลอดโรคมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก เนื่องจากต้นพันธุ์ที่เกษตรกรใช้ส่วนใหญ่มาจากต้นไหลที่เกษตรกรผลิตเอง ซึ่งไม่ได้มีการคัดเลือกพันธุ์ที่มีลักษณะดี อีกทั้งยังผ่านการทำพันธุ์มาแล้วหลายรุ่น ทำให้สตรอว์เบอร์รีเริ่มมีความอ่อนแอต่อโรค ผลผลิตลดลง และคุณภาพไม่ตรงตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค
จากปัญหาดังกล่าว กรมส่งเสริมการเกษตร ได้สั่งการให้ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 8 จังหวัดลำพูน เข้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และร่วมปรึกษาหาแนวทางดำเนินการร่วมกับเกษตรกรแปลงใหญ่สตรอว์เบอร์รี ทำให้ได้แนวทางที่จะนำมาใช้แก้ปัญหา คือ การผลิตต้นพันธุ์สตรอว์เบอร์รีด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยเป็นการนำชิ้นส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อเจริญของสตรอว์เบอร์รีพันธุ์ดีปลอดโรคที่มีลักษณะดี มาเพาะเลี้ยงบนอาหารวุ้นสูตรเฉพาะในสภาพปลอดเชื้อ มีการควบคุมอุณหภูมิและแสง เพื่อให้ชิ้นส่วนนั้นเจริญและพัฒนาเป็นต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนต้นแม่พันธุ์เดิม สามารถผลิตได้จำนวนมาก และนำออกไปปลูกในสภาพธรรมชาติได้ เนื่องจากทางศูนย์ฯ มีความพร้อมของห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์ และบุคลากรในการผลิต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดและมีความซับซ้อน เพื่อให้ได้ต้นพันธุ์ดีมีคุณภาพไปสู่เกษตรกรแปลงใหญ่สตรอว์เบอร์รี อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ตั้งเป้าหมายในการผลิตไว้จำนวน 100,000 ต้น
ปัจจุบันพันธุ์สตรอว์เบอร์รีที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ ได้แก่ พันธุ์พระราชทาน 80 สำหรับรับประทานผลสด ลักษณะมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ทรงผลสวย มีสีสันสวยงาม เนื้อค่อนข้างแน่น รสชาติหวานอร่อย และค่อนข้างต้านทานต่อโรคแอนแทรคโนสและราแป้ง และพันธุ์ 329 สำหรับรับประทานผลสดและแปรรูป ซึ่งเป็นพันธุ์ที่กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำให้ปลูก ให้ผลดก ผลมีขนาดใหญ่ กลิ่นหอม รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อค่อนข้างแข็ง ทำให้สะดวกต่อการขนส่ง สามารถวางจำหน่ายและเก็บรักษาไว้ได้นาน
โดยในวันที่ 6-10 กุมภาพันธ์ 2562 จะมีการจัดงาน “เทศกาลสตรอว์เบอร์รีและของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 18” ณ หน้าที่ว่าการอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งสตรอว์เบอร์รีคุณภาพดี การส่งเสริมผลิตภัณฑ์แปรรูป และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้เกษตรกรได้มีโอกาสเผยแพร่ผลิตผลทางการเกษตร และของดีอำเภอสะเมิงให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปด้วย
จากปัญหาดังกล่าว กรมส่งเสริมการเกษตร ได้สั่งการให้ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 8 จังหวัดลำพูน เข้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และร่วมปรึกษาหาแนวทางดำเนินการร่วมกับเกษตรกรแปลงใหญ่สตรอว์เบอร์รี ทำให้ได้แนวทางที่จะนำมาใช้แก้ปัญหา คือ การผลิตต้นพันธุ์สตรอว์เบอร์รีด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยเป็นการนำชิ้นส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อเจริญของสตรอว์เบอร์รีพันธุ์ดีปลอดโรคที่มีลักษณะดี มาเพาะเลี้ยงบนอาหารวุ้นสูตรเฉพาะในสภาพปลอดเชื้อ มีการควบคุมอุณหภูมิและแสง เพื่อให้ชิ้นส่วนนั้นเจริญและพัฒนาเป็นต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนต้นแม่พันธุ์เดิม สามารถผลิตได้จำนวนมาก และนำออกไปปลูกในสภาพธรรมชาติได้ เนื่องจากทางศูนย์ฯ มีความพร้อมของห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์ และบุคลากรในการผลิต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดและมีความซับซ้อน เพื่อให้ได้ต้นพันธุ์ดีมีคุณภาพไปสู่เกษตรกรแปลงใหญ่สตรอว์เบอร์รี อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ตั้งเป้าหมายในการผลิตไว้จำนวน 100,000 ต้น
ปัจจุบันพันธุ์สตรอว์เบอร์รีที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ ได้แก่ พันธุ์พระราชทาน 80 สำหรับรับประทานผลสด ลักษณะมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ทรงผลสวย มีสีสันสวยงาม เนื้อค่อนข้างแน่น รสชาติหวานอร่อย และค่อนข้างต้านทานต่อโรคแอนแทรคโนสและราแป้ง และพันธุ์ 329 สำหรับรับประทานผลสดและแปรรูป ซึ่งเป็นพันธุ์ที่กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำให้ปลูก ให้ผลดก ผลมีขนาดใหญ่ กลิ่นหอม รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อค่อนข้างแข็ง ทำให้สะดวกต่อการขนส่ง สามารถวางจำหน่ายและเก็บรักษาไว้ได้นาน
โดยในวันที่ 6-10 กุมภาพันธ์ 2562 จะมีการจัดงาน “เทศกาลสตรอว์เบอร์รีและของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 18” ณ หน้าที่ว่าการอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งสตรอว์เบอร์รีคุณภาพดี การส่งเสริมผลิตภัณฑ์แปรรูป และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้เกษตรกรได้มีโอกาสเผยแพร่ผลิตผลทางการเกษตร และของดีอำเภอสะเมิงให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปด้วย