เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 ส.ค. 59 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ และเจ้าหน้าทีทหารจากมทบ.11 นำตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวโยงกระทำความผิดเผยแพร่จดหมายทางไปรษณีย์ในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีเนื้อหาในลักษณะบิดเบือนร่างรธน. โดยผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบไปด้วย นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกอบจ.เชียงใหม่ ,น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ รองนายกอบจ.เชียงใหม่ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย,นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรี ต.ช้างเผือก ,นายอติพงษ์ คำมูล,นายกฤตกร โพทะยา,น.ส.เอมอร ดับโศรก ,นางสุภาวดี งามเมือง,นายเทวรัตน์ วินต้า,นางกอบกาญจน์ สุคีตา,นายวิศรุต คุณะนิติสาร และน.ส.ธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ มาส่งมอบให้กับทางพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. หลังควบคุมตัวครบอำนาจการคุมตัว 7 วัน โดยขั้นตอนในการรับมอบตัวผู้ต้องหานั้น ทางแพทย์ จากรพ.ตำรวจ จะทำการตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐานว่าผู้ต้องหาไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างควบคุมตัว ก่อนให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ ดำเนินคดีพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาศาลฝากขังภายในวันนี้ ทั้งนี้เบื้องต้นนายบุญเลิศและพวก ถูกดำเนินคดีใน 3 ข้อหาหนัก 1.ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา116 2.ร่วมกันเป็นซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 และ 3.ร่วมกันเผยแพร่ข้อความที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือกล่าวหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญตาม พ.ร.บ. ประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง ต่อมาที่ห้องประชุมชิวปรีชา กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ร่วมแถลงผลการจับกุมและแจ้งข้อหาพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหาที่ส่งจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 11 คน พล.ต.ต.ชยพล เปิดเผยว่า ช่วงวันที่12-15 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รับแจ้งจากที่ทำการไปรษณีย์ว่าพบจดหมายลักษณะเป็นพิรุธ ติดแสตมป์จ่าหน้าซองระบุที่อยู่ผู้รับ-ส่งลงในตู้ไปรษณีย์หลายจุดในพื้นเขตพื้นที่ จ.ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ทั้งนี้ทางกกต.ได้นำจดหมายไปตรวจสอบพบว่ามีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสภ.แม่ปิง เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่จัดทำจดหมายขึ้นมา นำไปสู่การสืบสวนสอบสวน โดยทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รองผบ.ตร. เป็นผู้ดูแลคดีดังกล่าว ซึ่งพล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ผบช.ภ.5 ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ขณะที่พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ตั้งชุดสืบสวน โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานเอกสาร การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี ประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่านายวิศรุต คุณะนิติสาร เป็นหนึ่งในผู้กระทำความผิด ก่อนที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ 473/59 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 จะออกหมายจับนายวิศรุต ในข้อหา “เผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียง ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” ตามม.61 (2) ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 กระทั่งตำรวจกองปราบปรามสามารถจับกุมตัวนายวิศรุต นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี จากการสอบสวนนายวิศรุตให้การการรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พล.ต.ต.ชยพล กล่าวอีกว่า การสอบปากคำนายวิศรุต นำไปสู่การขยายผลสอบปากคำลูกจ้างของบริษัทเชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด เจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลช้างเผือก และบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จนทราบว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน แบ่งหน้าที่กันทำ ต่อมาวันที่ 26 กรกฎาคม พ.อ.บุรินทร์ เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งหลังจากสืบสวนทำให้ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้บงการ ประกอบด้วย นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ,น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ,นายไพรัช ใหม่ชมภู และนายคเชน เจียกขจร เป็นผู้ควบคุม สั่งการ วางแผนยุยงปลุกปั่น ประชาชน จัดสถานที่ในการจัดทำเอกสารจดหมายบิดเบือน กำหนดเนื้องหาที่บิดเบือน กลุ่มเป้าหมายของประชาชนที่จะจัดส่งจดหมาย และการออกค่าใช้จ่ายในการทำจดหมาย 2.กลุ่มพิมพ์เอกสารจ่าหน้าซอง และผลิตจดหมาย ประกอบด้วย นายวิศรุต คุณะนิติสาร ,น.ส.เอมอร ดับโศรก,น.ส.สุภาวดี งามเมือง และนางณชพัฒน์ หรือกอบกาญจน์ สุตีคา มีหน้าที่ในการจัดพิมพ์เอกสาร 3.กลุ่มผู้ส่งจดหมาย ประกอบด้วย นายอดิพงษ์ คำมูล,นายกฤตกร โพทะยะ,น.ส.เอมอร ,นายวิศรุต และนายเทวรัตน์ รินต้า (กร) มีหน้าที่ในการนำจดหมายไปส่งให้กับประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และ4.กลุ่มผู้ช่วยเหลือซ่อนเร้น ประกอบด้วย น.ส.ธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ กับพวก ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวก ให้การสนับสนุนกลุ่มส่งจดหมายให้หลบหนี กระทั่งศาลมณฑลทหารบกที่ 33 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 11 ราย ในข้อหา อั้งยี่ ซ่องโจร ,ปลุกปั่น ยุยงส่งเสริม ให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ตามม.116 และความผิดม.61(2) ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าฝ่ายความมั่นคงของทหารได้เชิญตัวผู้ต้องหา 10 คน ยกเว้นนายวิศรุต ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และนายเทวรัตน์ รินต้า หรือกร ที่กำลังหลบหนี มาซักถาม และควบคุมตัวที่มทบ.11 กระทั่งวันที่ 2 สิงหาคม ครบกำหนด ส่งตัวทั้ง 10 คนให้กับพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามขั้นตอน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในส่วนของพยานหลักฐานที่ชี้ชัดในการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหานั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน ซึ่งจากการสอบถามบุคคลที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 10 คนรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยขั้นตอนการรับตัวจากทหารในวันนี้ได้ให้แพทย์จากรพ.ตำรวจมาตรวจสอบร่างกาย ก่อนจะนำตัวขึ้นเครื่องบิน ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ และมอบหมายให้พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ผบช.ภ.5 ดำเนินการต่อไป ในส่วนของการตรวจร่างกายนั้น พ.ต.ท.ธัญลักษณ์ ธุดี นายแพทย์ (สบ.3) กลุ่มงานศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายผู้ต้องหาทั้งหมดไม่พบร่องรอยบาดแผลการทำร้ายร่างกาย แต่พบว่ามีผู้ต้องหา 2 ราย คือนายกฤตกร โพทะยา มีอาการความดันโลหิตสูง และนางสุภาวดี งามเมือง เป็นโรคเบาหวานและมะเร็งเต้านม ขณะที่นายบุญเลิศ กล่าวว่า ตนขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ทั้งนี้มีรายงานว่า ระหว่างการแถลงพฤติการณ์การกระทำความผิด รวมทั้งระบุถึงข้อกล่าวหาทั้ง 10 คนนั้น ตำรวจได้แสดงแผนผังพฤติการณ์การแบ่งหน้าที่การกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหา ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงข่าวถึงกรณีการดำเนินการกับ น.ส.ทัศนีย์ กับพวกว่า ทาง พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ได้มารับตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินการที่ จ.เชียงใหม่ โดยจะมีการส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดำนินคดี ส่วนกรณีความเคลื่อนไหวของบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการออกเสียงประชามติฯ ยังไม่พบ ในส่วนของการพ่นสีเขียนป้ายข้อความต่างๆ ไว้ที่บริเวณพื้นถนน กำแพงมัสยิด รั้วโรงเรียน ป้ายบอก ชื่อหมู่บ้านและข้างอาคารของหน่วยราชการประจำตำบลหรือหมู่บ้านเมื่อช่วงวันที่31กรกฎาคม -1 สิงหาคม ในจ.ยะลานั้น ทาง กกต.ได้ร้องทุกข์แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่ต้องทำการตรวจสอบเสียก่อนเฉกเช่นกับสีสเปรย์ที่ถูกพ่นซึ่งเป็นสีแดงต้องตรวจสอบว่าโยงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นจากการตรวจสอบการกระทำดังกล่าวน่าจะทำเป็นกลุ่มบุคคล ซึ่งภาพรวมทั้งประเทศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ไม่น่ามีปัญหาใดๆ สำหรับความพร้อมของตำรวจนั้นได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่มานานแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว และจะคอยเน้นย้ำอยู่เรื่อยๆ