"เลขาธิการ ปปช."ย้ำ ปปช.ได้มีมติชี้มูล “ปลัด อบต.ยะรม” อ.เบตง จ.ยะลา ไปแล้วตั้งแต่ ก.ค.61 ปมร่วมกับพวกกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หลังผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิ์ตามมาตรา 99 ภายใน 30 วัน จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องร้องเรียน นางปัทมา อิสเฮาะ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา กับพวกกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีจัดโครงการฝึกอบรมสัมนาและทัศนศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากร ผู้นำชุมชนและสตรีตำบลยะรม ประจำปี 2557 ที่จังหวัดสตูล แต่กลับนำผู้เข้าร่วมโครงการไปเที่ยวที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย แล้วจัดเอกสารเท็จเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการใต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าการกระทำของนางปัทมามีมูลความผิดวินัยร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จึงส่งเรื่องให้ทางอบต.ยะรม พิจารณาลงโทษถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่ปรากฎว่า ปัจจุบันนางปัทมา ยังคงปฏิบัติหน้าที่ปลัด อบต.ยะรม และปฏิบัติหน้าที่รักษาการนาย กอบต.ยะรม อยู่โดยไม่ได้ถูกลงโทษทางวินัยตามคำสั่ง ป.ป.ช.แต่อย่างใด ล่าสุด เมื่อวันที่4 ก.พ.นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นกรณีที่ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิ์ตามมาตรา 99 บัญญัติว่าในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานใหม่อันแสดงได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาให้มีหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานถึงคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนมติได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับเรื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้นป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูล และสำนักงาน ป.ป.ชได้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ภายหลังจากที่ประกาศใช้กฎหมายปปช.ฉบับใหม่ ประกาศใช้บังคับ