เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 2 ส.ค. 59 ที่วัดลำพะอง แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. พ.ต.อ.กิจภัท เพ้งรุ่น รอง ผบก.น.3 ร.ต.ท.ประเสริฐ มีสุข รองสว.(สอบสวน) สน.ลำผักชี พ.ต.ท.ขวัญชัย กองศักดิ์ รองผกก.(สอบสวน) เจ้าของคดี พร้อมด้วย น.ส.วีณา นุสดิน หัวหน้ากลุ่มคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยาน ในราชอาณาจักร กรมการบินพลเรือน และเจ้าหน้าที่จากบริษัทแรบบิท วิงส์ แอร์เวย์ เข้าตรวจสอบเครื่องบินเล็กแบบเหมาลำ ชื่อไพเพอร์ ชิพเท่น (Piper Chieftain) รุ่น HS-FGB ของบริษัท แรบบิท วิงส์ แอร์เวย์ ที่ประสบอุบัติตกลงในคลองหลังวัดลำพะอง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการวัดระยะความสูงของต้นไม้ที่ถูกปีกของเครื่องบินชนหัก วัดระยะที่พื้นร่วมถึงการรื้อเครื่องด้านในออกมาตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่เครื่องบินตกในครั้งนี้ พ.ต.อ.กิจภัท กล่าวว่าในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบซากของเครื่องบินที่ตกลงมาเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ในเบื้องต้นยังไม่ได้ขอสรุปสาเหตุเนื่องจากเป็นเครื่องบินขนาดเล็กจึงไม่มีกล่องดำ เจ้าหน้าที่จะต้องนำผลที่ได้ในวันนี้เข้าไปตรวจวิเคราะห์ก่อน ส่วนเรื่องคดีนั้นยังไม่ได้ตั้งข้อหาต่อฝ่ายใดเพราะต้องรอสอบสวนพยาน และนักบินผู้ช่วยว่าเกิดเหตุได้อย่างไร ต้องดูว่าพยานพร้อมให้การหรือไม่เนื่องจากยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เสรีรักษ์ จากการสอบถามทราบว่าก่อนเครื่องประสบอุบัติเหตุตกนั้นทางกัปตันได้แจ้งขอลงฉุกเฉิน แต่ไม่ได้แจ้งถึงสาเหตุก่อนจะขาดการติดต่อไป ในส่วนเรื่องการเยียวยาผู้ประสบเหตุนั้นทราบว่าทาง บริษัทฯมีประกันเครื่อง ทั้งนี้ก็ต้องให้ประกันเป็นผู้ดำเนินการต่อไป สภาพซากเครื่องบินเล็กที่ประสบอุบัติตกลงในคลองหลังวัดลำพะอง ตัวแทนจากบริษัท แรบบิท วิงส์ แอร์เวย์ เปิดเผยว่าผู้โดยสารที่อยู่ในเครื่องนั้นเป็นพนักงานของบริษัททั้งหมด ประกอบไปด้วยนายศิราวุฒิ เตียวประเสริฐ อายุ 38 ปี เป็นนักบินที่ 1 นายวุฒิพงษ์ ไชยนา อายุ 44 ปี เป็นนักบินที่ 2 จ่าโทพิทักษ์ สืบเทศ อายุ 43 ปี เป็นช่างเครื่อง และ นายกิตติพร ธนะสังข์ อายุ 33 ปีเป็นพนักงาน ไม่ได้เป็นการเช่าเพื่อส่งผู้โดยสารแต่อย่างใด ส่วนเรื่องบินลำดังกล่าวถูกใช้งานมากกว่า 10 ปี ไม่เคยมีปัญหามาก่อนอย่างไรก็ตามทางบริษัทมาร่วมตรวจสอบกับทางราชการ คือกรมการบินพลเรือน ซึ่งต้องรอคำสั่งของทางกรมการบินพลเรือนว่าจะให้ขนย้ายเครื่องบินออกไปได้เมื่อใด ส่วนการดูแลพนักงานบริษัทนั้นผู้เสียชีวิตได้เคลื่อนย้ายศพไปยังบ้านเกิดจังหวัดเชียงราย ส่วนคนเจ็บทั้งพนักงานบริษัท ทั้งประชาชน ทางบริษัทจะดูแลเพราะมีประกันภัยควบคุมอยู่แล้ว น.ส.วีณา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เข้ามาตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุเพื่อจะนำไปทำภาพจำลองสถานที่ รวมไปถึงการคำนวนความเร็ว การลดระดับการบิน และระยะทาง ที่มีความสัมพันธ์กันเพื่อหาความพกพร่องของเครื่องบิน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้เพราะต้องรอการวิเคราะห์ให้รอบด้านก่อน ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าเครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินขนาดเล็กจึงไม่มีกล้องดำในการจำภาพและรายละเอียดขณะเกิดเหตุ นางพรทิพย์ ทองดี อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าขณะนั้นนั่งเล่นอยู่ในบ้านได้ยินเสียงเครื่องบินดังมาก หันไปยังต้นเสียงเห็นเครื่องบินตกลงคลองน้ำกระจายจนผักตบชวากระเด็นขึ้นไปบนหลังคาเมื่อเสียงสงบมีคนร้องขอความช่วยเหลือชาวบ้านต่างพากันไปช่วยคนในเครื่องออกมา มีอยู่ 1 คนที่มากับเครื่องเดินไปมาได้อย่างปกติ ระหว่างนั้นก็ยังลังเลว่าจะมีเหตุระเบิดตามมาหรือเปล่าเพราะมีกลิ่นน้ำมันแรงมาก แต่โชคดีที่ไม่มีการระเบิดขึ้น ตนยังตกใจกับเหตุการณ์นี้ยังไม่หาย ส่วนศาลาปฏิบัติธรรมที่เครื่องบินเฉียดไปนิดเดียวนั้น เชื่อว่าคงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ทำให้รอดปลอดภัย ด้านนางประพิน เปรมปรี อายุ 49 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งล้างจานอยู่บริเวณเชิงสะพาน จากนั้นเห็นเครื่องบินดังกล่าวอยู่ห่างออกไปเพียง 2 เมตร ปีกทั้งสองข้างแหวกต้นไม้เข้ามาอย่างเร็ว เครื่องบินต่ำลงและหัวเครื่องบินมุ่งหน้ามายังบริเวณที่ตนอยู่ ตนจึงรีบลุกขึ้นวิ่งไปและได้ล้มลง ขณะเดียวกันเครื่องบินได้พุ่งลงชนกับตอสะพานในคลองทำให้น้ำมัน น้ำคลอง และผักที่อยู่ภายในคลองถาโถมเข้ามายังตนเป็นเหตุให้เกิดอาการหูดับและได้รับบาดเจ็บบริเวณขาด้านซ้าย แผลลึกลงไปเกือบถึงกระดูก เย็บทั้งหมด 6 เข็ม อย่างไรก็ตามภายหลังจากตนหาหมอเสร็จก็ได้มีการพูดคุยกับชาวบ้านอีกฝั่งหนึ่งที่กำลังทำนาอยู่ทราบว่าเครื่องบินดังกล่าวได้เสียหลักมาจากบริเวณอีกฝั่ง ซึ่งปีกเครื่องบินก็หล่นอยู่บริเวณนั้น ก่อนที่เครื่องบินจะมาตกบริเวณที่ตนอยู่ นางประพิน กล่าวต่อว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีทนายความของบริษัทเข้ามาพูดคุยแล้ว พร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายและค่าดูแลทั้งหมด ทั้งนี้จากการพูดคุยทนายเล่าให้ตนฟังว่าเหตุที่นำเครื่องลงเพราะเครื่องหมดแรง แต่ตนไม่ทราบว่าเครื่องหมดแรงในความหมายนั้นคืออะไร ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวเดินไปตรวจสอบบริเวณหลังศาลาพบว่าต้นเหลืองหลวง 3 ต้น และต้นมะฮอกกานี 2 ต้นถูกปีกเครื่องบินตัดกิ่งขาด แต่ที่ขอบอาคารศาลาปฏิบัติธรรมที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต (จำลอง) พระหลวงพ่อโสธร (จำลอง) พระพุทธชินราช (จำลอง) ที่อยู่ติดกันไม่ได้รับความเสียหายใดๆ จนเป็นที่ล่ำลือของชาวบ้านละแวกนั้นว่าความศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สำหรับศาลาแห่งสร้างมาได้ประมาณ 1 ปี