วันที่ 18 ก.ค.2568 นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี อดีตรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขอเรียกร้องให้ปั๊มน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ปตท., พีที และบางจาก เปลี่ยนแนวทางการแจกของแถมจากน้ำดื่ม เป็น “สินค้าเกษตรที่ราคาตกต่ำ” เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด และมันสำปะหลัง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยที่กำลังประสบภาวะวิกฤตหนัก ทุกวันนี้เกษตรกรกำลังจะตายกันหมดแล้ว! ค่าปุ๋ยก็แพง ค่าแรงก็ถูก แถมยังถูกสินค้าต่างประเทศตีตลาด สินค้าเกษตรของไทยจึงถูกกดราคาอย่างน่าเวทนา ปัจจุบันราคาผลไม้หลายชนิดในตลาดตกต่ำจนน่าใจหาย เช่น มังคุดบางพื้นที่ราคาต่ำกว่า 10 บาท/กิโลกรัม ทุเรียนคุณภาพดีแต่ขายไม่ได้ เงาะเน่าในสวน มันสำปะหลังราคาต่ำกว่าต้นทุน ขณะที่เกษตรกรต้องกัดฟันสู้กับต้นทุนการผลิตที่สูงลิ่ว จนแทบเอาตัวไม่รอด ทั้งนี้ รัฐบาลควรเห็นความสำคัญของปัญหานี้ และผลักดันให้สถานีบริการน้ำมันใช้ “พื้นที่หน้าปั๊ม” เป็นพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกร เช่น การตั้งจุดแจกหรือจำหน่ายผลไม้ราคาถูก หรือรับซื้อผลผลิตเกษตรมาแจกให้ประชาชนแทนน้ำเปล่าขวดละ 10 บาทที่แจกกันจนชิน
“อย่าแจกแต่น้ำ แจกของที่มีคุณค่ากับเกษตรกรบ้าง กระทรวงพาณิชย์ต้องร่วมมือกับกระทรวงพลังงานผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนอดตายก่อน แม้ผมจะไม่ได้มีตำแหน่งในรัฐบาลแล้ว แต่ในฐานะอดีต ส.ส. และอดีตรัฐมนตรีฯ ยังห่วงใยประชาชน และไม่อาจนิ่งดูดายต่อความเดือดร้อนของคนในชาติ ผมพูดด้วยความหวังดี ไม่ใช่เพราะอยากเด่นหรือเรียกร้องอะไร แต่เพราะมันเจ็บปวดที่ต้องเห็นพี่น้องเกษตรกรล้มละลายกันทั้งประเทศ ขณะที่รัฐบาลยังแจกน้ำดื่มอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” นายวิเชษฐ์กล่าว และว่า หากรัฐไม่รีบขยับ ครั้งหน้าที่ผลไม้ล้นตลาดอีก ก็ไม่ต้องโทษใคร เพราะโอกาสในการช่วยเหลือมีอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ใครจะกล้าลงมือทำ อย่ากลัวแต่นายทุนต้องสั่งนายทุน ช่วยเหลือเกษตรกรเจ้าของคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกพวกท่านมาทำงานบ้าง