โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บ้านป่าคา เป็นโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตชาวไทยภูเขา พร้อมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม ผ่านการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้เกษตรกรอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างสมดุล ลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า และเพิ่มรายได้ด้วยการผลิตพืชและข้าวคุณภาพ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและการพึ่งพาตนเองในระยะยาว
สำหรับพื้นที่ดำเนินการ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บ้านป่าคา ครอบคลุมหลายหมู่บ้าน เช่น บ้านป่าคา หมู่ 8 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน บ้านป่าหมาก หมู่ 26 และบ้านโละโคะ หมู่ 10 ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร เดิมราษฎรมีวิถีชีวิตทำไร่เลื่อนลอย ใช้พื้นที่เพาะปลูกเพียง 3–4 ปีแล้วเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใหม่ ทำให้เกิดปัญหาการถางป่าเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งการใช้สารเคมีในปริมาณมาก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
โดยเริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีความคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าลดลง ปัญหายาเสพติดหมดไป และแรงงานต่างด้าวลดลง ราษฎรหันมาปลูกพืชผักสวนครัวและผลไม้ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างสมดุลและยั่งยืน
ชุติกาญจน์ งามวิสัย รักษาการผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร กล่าวว่า กรมการข้าว โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้และจัดทำแปลงสาธิต เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพอย่างยั่งยืน โดยเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการนำเมล็ดพันธุ์ข้าว กข21 ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์หลักเข้ามาส่งเสริมในพื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เกษตรกรปลูกข้าว กข21 ที่เก็บไว้นาน ทำให้เกิดเมล็ดพันธุ์ข้าวปน จึงมีการนำเมล็ดพันธุ์แท้จากจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาแจกจ่ายให้สมาชิกบ้านโละโคะ เพื่อนำไปปลูกและใช้เป็นพันธุ์ดีในฤดูกาลต่อไป
บ้านโละโคะ พื้นที่ทำการเกษตรมีประมาณ 1,220 ไร่ โดยปลูกข้าวเพียง 95 ไร่ และมีเกษตรกรรวม 30 ราย หลังจากได้รับความรู้จากกรมการข้าว ชุมชนสามารถต่อยอดและพัฒนาแนวทางการเพาะปลูกได้อย่างเป็นรูปธรรม เกษตรกรมีเมล็ดพันธุ์คุณภาพเพียงพอสำหรับการปลูกและบริโภค ข้าวที่ปลูกมีคุณภาพ ถูกใจผู้บริโภค และสามารถเก็บไว้ใช้ในครัวเรือนได้ยาวนาน นอกจากนี้ยังมีการปรับลดพื้นที่ปลูกข้าวไร่ หันมาทำนาสวนเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงกว่าเดิม
ขณะที่ บ้านป่าคา ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงประมาณ 750-850 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงกว่าบ้านโละโคะ มีประชากรราว 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง อาชีพหลักทำเกษตรกรรม โดยปลูกข้าว ข้าวโพด พืชผัก มันสำปะหลัง และผลไม้ตามฤดูกาลเป็นหลัก ปัจจุบัน โครงการสถานีพัฒนาเกษตรที่สูง ได้เน้นส่งเสริมการปลูกผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเพาะเลี้ยงชันโรง ซึ่งเป็นแมลงผสมเกสรที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศและการเกษตร โดยทำงานร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อสร้างองค์ความรู้และเพิ่มโอกาสทางอาชีพให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ด้วยวิถีชีวิตของชนเผ่าบนพื้นที่สูง เกษตรกรส่วนใหญ่เน้นการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อใช้ในการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป และสำรองไว้สำหรับการบริโภคในครัวเรือน จึงไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การจำหน่ายเป็นหลัก ปัจจุบันชาวบ้านนิยมปลูกข้าวปีละหนึ่งครั้ง โดยสามารถจัดเก็บข้าวไว้ใช้ได้นานถึง 2 ปี เมื่อความต้องการบริโภคภายในครอบครัวได้รับการเติมเต็มแล้ว เกษตรกรจะเปลี่ยนมาปลูกพืชไร่ชนิดอื่นที่มีมูลค่าสูง เช่น ข้าวโพด หรือมันสำปะหลัง เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม แนวทางดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนในการดำรงชีวิต แต่ยังเป็นรูปแบบของการเกษตรที่ยั่งยืน ช่วยให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอก และส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร ได้น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง มาขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานพัฒนาที่ดิน เพื่อช่วยเกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าวไร่หรือไร่เลื่อนลอย ให้กลายเป็น “นาขั้นบันได” ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิต ลดการใช้สารเคมี และชะลอการขยายพื้นที่บุกรุกป่า อันเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาเสริมในกระบวนการผลิต โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แทนการใช้ปุ๋ยเคมี เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นต้นน้ำ จึงต้องรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการเพิ่มผลผลิต พร้อมทั้งถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการใช้เชื้อรากำจัดศัตรูพืช และเทคนิคการขยายเชื้อ เพื่อสร้างระบบเกษตรที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับธรรมชาติ
โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บ้านป่าคา ได้รับการตอบรับจากเกษตรกร ชาวบ้านให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสอบถามถึงความต้องการเกี่ยวกับพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ที่ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ กข21 ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชรจึงได้นำพันธุ์ข้าวที่ผ่านการรับรองมาทดสอบในพื้นที่ เพื่อคัดเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมที่สุด สามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อม และให้ผลผลิตสูง เพื่อตอบโจทย์เกษตรกรพื้นที่สูงโดยเฉพาะ
“ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร พร้อมเดินหน้าส่งเสริมเกษตรกรที่ต้องการปลูกข้าวเพื่อการบริโภคอย่างเพียงพอ และสนับสนุนผู้ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าผลผลิต พร้อมเชิญชวนเกษตรกรทุกคนร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ เพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง ให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” รักษาการผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร กล่าวทิ้งท้าย