พช.จับมือสถาบันอาหารยกระดับอาหารไทยสู่ระดับโลก “นืสืต”มั่นใจสร้างรายได้ให้ประเทศ ชุมชนมีเงินใช้มหาศาล โวปีหน้าอยากเห็นชุมชนแข็งแกร่งทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยนายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร นางลักขณา นะวิโรจน์ ประธานโครงการสุขสยาม ได้แถลงผลการจัดกิจกรรมยกระดับมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ (OTOP Authentic Thai Taste) ภายใต้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ประเภทอาหารและเครื่องดื่มจากภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 2,000 ร้านระหว่าง 28 ม.ค. - 6 ก.พ. 62 ที่ไอคอนสยาม ชั้นG
โดยนายนิสิต กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล สินค้า OTOP ให้มีมาตรฐาน มีคุณภาพ มีแบรนด์ แล้วก็ก้าวสู่ความเป็นสากล ด้วยการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้ร่วมมือกับสถาบันอาหาร เพื่อที่จะพัฒนามาตรฐานสินค้า OTOP ประเภทอาหารในการยกระดับมาตรฐานอาหารให้มีความรับรองมาตรฐานอาหาร โดยเฉพาะๅการคัดเลือกวัตถุดิบ และกระบวนการการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นมาตรฐานสำคัญที่จะทำให้ยกระดับคุณภาพสินค้าได้ดี นอกจากนี้ต้องรักษาอัตลักษณ์ดั้งเดิมไว้ให้ได้ ซึ่งเป็นทุนวัฒนธรรมของความเป็นไทย เพราะประเทศไม่มี และทุนอาหารเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ของประเทศ
นายนิสิต กล่าวว่า วันนี้อาหารไทยอยู่ในระดับโลกหลายรายการ ถ้าลองจินตนาการว่ามีอาหาร 25 อย่างที่อยู่ตรงนี้ ถ้าเขาก้าวไปสู่เวทีโลกไปขายมัสมั่นทั่วโลก ไปขายต้มยำกุ้งทั่วโลก ไปขายผัดไทยทั่วโลก คิดว่าชาวชุมชนต่าง ๆ จะเกิดรายได้มหาศาล ถ้าเราสามารถขยายอาหารได้ปีหน้าอาจจะมีไก่ย่างเขาสวนกวาง อาจจะมีอะไรหลาย ๆ อย่าง อยากจะเห็นอาหารโอทอปได้ดาวแบบมิชลีนสไตล์จะได้ทั้งมูลค่าเพิ่ม และราคาเพิ่ม ทั้งการส่งเสริมธุรกิจชุมชนให้เข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น แล้วก็อยากจะเห็นแกงมัสมั่นใส่ถุงเป็นแพคเกจอย่างดีเก็บไว้ได้หลายเดือน และหวังว่าต่อไปนี้อาหารที่ใส่แบบนี้จะได้รับการประกัน รวมทั้งอาหารที่ขึ้นชื้นชื่อทุกจังหวัดด้วย และ
“ผมอยากเห็นกระยาสารท จ.ตาก กาละแมที่ได้รางวัลไปสอนผู้ประกอบการโอทอปอื่น ๆ ให้ความอร่อยเป็นมาตรฐาน โดยใช้โรงเรียน Academe 5 จังหวัดเขาทำยังไง มีส่วนผสมยังไง แล้วส่วนผสมก็ไม่ต้องตามจังหวัดตากก็ได้ อาจจะใช้ถั่วที่มีอัตลักษณ์แต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยให้ชุมชนแข็งแกร่งกันทั่วประเทศ นี่คือความปรารถนาอยากให้ก้าวต่อไป ”อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว
ด้าานายยงวุฒิ กล่าวว่า สถานอาหารมีส่วนร่วม ในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ OTOP ไม่น้อยกว่า 600 ราย เพื่อขอการรับรองมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ ให้แก่ผู้ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ จัดทำเวิร์คชอปร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อกำหนดวิธีมาตรฐานในการเตรียม และกระบวนการปรุงเมนูอาหาร โดยใช้วิทยาศาสตร์ในการดำเนินการ การวิเคราะห์ทดสอบกลิ่นและรสชาติ เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค เมื่อผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ จะได้รับอนุญาตให้ใช้ตรามาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้
ขณะที่นางลักขณา กล่าวว่า ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนสินค้า อาหารพื้นถิ่นวัฒนธรรมไทย เพื่อการสร้างรายได้สู่ชุมชน สร้างการหมุนเวียนทางการค้าอย่างยั่งยืน ซึ่งคาดว่าจะช่วยพัฒนาต่อยอดสินค้าอาหาร วัฒนธรรม ชุมชนไทย ให้ประสบความสำเร็จต่อไปได้ในอนาคตมากยิ่งๆ อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามการจัดงานครั้งนี้กรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โครงการสุขสยาม และภาคีเครือข่าย ได้มีการคัดเลือกอาหารถิ่นรสไทยแท้ไว้จำนวน 25 เมนู จาก 5 ภูมิภาคของประเทศ ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีชื่อเสียง อาทิ ยกตัวอย่างเช่น ภาคใต้ แกงกะทิหอยกินกับยอดเป้ง จ.พังงา หอยนางรมทรงเครื่อง จ.สุราษฎร์ธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อาหารถิ่นรสไทยแท้ทั้ง 25 ประเภทจะนำมาจัดแสดงและจำหน่ายเพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป โดยและจะจัดอีก 2 ครั้ง ในภาคเหนือที่เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 13 - 15 ก.พ. 2562 และภาคใต้ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 18 - 20 ก.พ. 2562 ภายในงานนอกจากจะได้ชิมอาหารถิ่นมาตรฐานรสไทยแท้แล้ว ยังได้ชมการจัดสำรับอาหารถิ่นที่ผ่านการคัดเลือกระดับประเทศ สาธิตการปรุงเมนูอาหารถิ่นรสไทยแท้ และกิจกรรม เช็คอิน แชะ แชร์ ติดแฮชแท็ค ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ OTOP Authentic Thai Taste ลุ้นรับของรางวัลมากมาย