60% ตื่นตัวถึงอันตราย ระบุประชาสัมพันธ์ภาครัฐยังอ่อน พร้อมต้องใช้มาตรการเข้มข้นแก้ปัญหา แต่ขณะเดียวกันยังกังวลว่าอาจมีเสียงค้าน พร้อมห่วงอนาคตยังต้องผจญปัญหานี้ไม่สิ้นสุด
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโสสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) เปิดเผยผลสำรวจ “ความรับรู้และความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5” ระหว่างวันที่ 19-24 ม.ค.62 จากกลุ่มตัวอย่าง1,185 คน
สรุปผลได้ดังนี้ ในด้านความสนใจติดตามข่าวและความรับรู้เกี่ยวกับอันตรายของฝุ่นละออง PM 2.5 นั้น มากกว่าครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 51.65 ระบุสนใจติดตามข่าว ขณะที่ร้อยละ 28.69 ไม่ได้สนใจติดตามข่าวเลย มีเพียงร้อยละ 19.66 ติดตามข่าวตลอด ทั้งนี้ ร้อยละ 64.81 ทราบว่าปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 จะส่งผลกับสุขภาพในระยะยาวได้ ขณะที่ร้อยละ 35.19 ยอมรับว่าไม่ทราบ
ในด้านความคิดเห็นต่อการตื่นตัวและตระหนักถึงอันตรายของปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 นั้น มากกว่าครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 59.24 เห็นว่าคนส่วนใหญ่ตื่นตัวถึงอันตรายแล้ว ขณะที่ร้อยละ 30.63 เห็นว่ายังไม่ตื่นตัว ส่วนร้อยละ 10.13 ไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม มากกว่าครึ่งหนึ่งร้อยละ 57.81 เห็นว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงการป้องกันอันตราย
ด้านความคิดเห็นต่อการจัดการปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ของหน่วยงานภาครัฐ มากกว่าสามในสี่หรือร้อยละ 78.23 เห็นว่าจำเป็นต้องเพิ่มประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้อันตรายจากฝุ่นละออง PM 2.5 ให้ประชาชน แต่ร้อยละ 66.58 เห็นว่าหน่วยงานรัฐยังไม่ได้ให้ความสนใจแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 ในระยะยาวอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ มากกว่าสองในสามหรือร้อยละ 68.52 เห็นด้วยหากรัฐบาลกำหนดมาตรการเด็ดขาดเพื่อแก้ปัญหา เช่น สั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษ สั่งลดเวลาทำงานของโรงงานอุตสาหกรรมต่อวัน สั่งหยุดก่อสร้างขนาดใหญ่ทุกอย่าง สั่งห้ามยานพาหนะที่มีควันดำวิ่งทันที กำหนดให้รถส่วนบุคคลวิ่งสลับวันกันตามเลขทะเบียนลงท้าย เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 23.04 ไม่เห็นด้วย ส่วนร้อยละ 8.44 ไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม เกือบสามในสี่หรือร้อยละ 73.25 กังวลว่าจะมีผู้ออกมาคัดค้าน/หาวิธีหลีกเลี่ยงหากรัฐบาลกำหนดมาตรการเด็ดขาดเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ดังกล่าว ขณะที่ร้อยละ 20.25 ไม่กังวล ส่วนร้อยละ 6.5 ไม่แน่ใจ
ขณะที่ร้อยละ 70.04 ยอมรับว่ากังวลว่าในอนาคตจะเกิดปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตกทม.และปริมณฑลถี่ขึ้น
ขอบคุณภาพ FB จส.100
อย่างไรก็ตาม มากกว่าครึ่งหนึ่งร้อยละ 57.81 เห็นว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงการป้องกันอันตราย
ด้านความคิดเห็นต่อการจัดการปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ของหน่วยงานภาครัฐ มากกว่าสามในสี่หรือร้อยละ 78.23 เห็นว่าจำเป็นต้องเพิ่มประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้อันตรายจากฝุ่นละออง PM 2.5 ให้ประชาชน แต่ร้อยละ 66.58 เห็นว่าหน่วยงานรัฐยังไม่ได้ให้ความสนใจแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 ในระยะยาวอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ มากกว่าสองในสามหรือร้อยละ 68.52 เห็นด้วยหากรัฐบาลกำหนดมาตรการเด็ดขาดเพื่อแก้ปัญหา เช่น สั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษ สั่งลดเวลาทำงานของโรงงานอุตสาหกรรมต่อวัน สั่งหยุดก่อสร้างขนาดใหญ่ทุกอย่าง สั่งห้ามยานพาหนะที่มีควันดำวิ่งทันที กำหนดให้รถส่วนบุคคลวิ่งสลับวันกันตามเลขทะเบียนลงท้าย เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 23.04 ไม่เห็นด้วย ส่วนร้อยละ 8.44 ไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม เกือบสามในสี่หรือร้อยละ 73.25 กังวลว่าจะมีผู้ออกมาคัดค้าน/หาวิธีหลีกเลี่ยงหากรัฐบาลกำหนดมาตรการเด็ดขาดเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ดังกล่าว ขณะที่ร้อยละ 20.25 ไม่กังวล ส่วนร้อยละ 6.5 ไม่แน่ใจ
ขณะที่ร้อยละ 70.04 ยอมรับว่ากังวลว่าในอนาคตจะเกิดปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตกทม.และปริมณฑลถี่ขึ้น
ขอบคุณภาพ FB จส.100