กระทรวงแรงงานลงนามความร่วมมือพัฒนา-เพิ่มศักยภาพบุคลากร-เพิ่มขีดแข่งขัน ผลักดันเมืองไทยศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอินโดจีน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงานเปิดเผยว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาบุคลากรและกำลังแรงงาน เนื่องจากอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่มีกำลังแรงงานมากกว่า 2.85 ล้านคน ซึ่งดำเนินกิจกรรมด้านการขนส่ง การผลิตสินค้า การบริการของประเทศ และการกระจายสินค้าถึงผู้บริโภค ส่งผลให้เกิดความต้องการกำลังแรงงานที่มีทักษะฝีมือและการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านการขนส่ง โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอินโดจีน กระทรวงแรงงานในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนพัฒนากำลังแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ (Super Worker) มีศักยภาพเพียงพอต่อการส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศทั้งในเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.)ใช้แนวทางประชารัฐสร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมการพัฒนาศักยภาพแรงงาน รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งนี้ได้กำหนดเป้าหมายที่จะพัฒนากำลังคนร่วมกับกับการท่าเรือแห่งประเทศไทยด้านโลจิสติกส์ระยะเวลา 5 ปี ในพื้นที่การท่าเรือจำนวน 5 แห่งได้แก่ ท่าเรือกรุงเทพ,ท่าเรือแหลมฉบัง,ท่าเรือเชียงของ,ท่าเรือเชียงแสน และท่าเรือระนอง เป้าหมายดำเนินการปีละ 1,000 คน เบื้องต้นร่วมกันจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรของการท่าเรือแห่งประเทศที่ศูนย์ฝึกอบรมขับใช้เครื่องมือทุ่นแรง (Simulator Center) หลักสูตรทิศทางการดำเนินการธุรกิจท่าเรือในอนาคต การพัฒนาระบบงาน Logistic ทบทวนการปฏิบัติงานเกี่ยวกับปั้นจั่น การขับใช้รถยกตู้สินค้า มีผู้เข้ารับฝึกอบรมจำนวน 128 คน นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรและมาตรฐานฝีมือแรงงานสำหรับสาขาต่างๆที่มีความต้องการในอนาคต เพื่อให้บุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับท่าเรือและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ มีองค์ความรู้และพร้อมที่จะก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนความรู้ วิทยากร เทคโนโลยีสมัยใหม่ และปัจจัยอื่นๆในการพัฒนากำลังแรงงานในสาขาอาชีพต่างๆที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนากำลังคนให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ มีทักษะสูงขึ้น ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพิ่มขีดความสามารถรองรับความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในอนาคต