“นายกฯ” ย้ำ สถานการณ์ใต้ไม่ใช่ความขัดแย้งทางศาสนา แจงไม่เคยนิ่งนอนใจ กำชับจนท.เข้มงวดทุกจุดอ่อนไหว เตือนปชช.อย่าตกหลุมพรางเชื่อข่าวบิดเบือนเพื่ออัพเกรดตัวเอง เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นห่วงว่าจะถูกทำให้เข้าใจผิดในเรื่องของศาสนาว่า เราก็อย่าเข้าใจผิด มันไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งทางศาสนาหรอกเพราะทางโอไอซีหรือประเทศผู้แทนมุสลิมมาเยี่ยมเยือนเราหลายครั้ง จัดคณะทำงานไปดูในพื้นที่ภาคใต้ ไปสอบถามประชาชนในพื้นที่เขาก็บอกไม่ใช่ความขัดแย้ง เรื่องนี้เป็นความขัดแย้งที่ไม่ใช่รูปแบบเดิมๆที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ ดังนั้นเราอย่าเอาหลายอย่างไปพันกัน ขณะนี้เรายังไม่ถึงตรงนั้น “สิ่งที่ผมอยากให้ความสำคัญก็คือสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าช่วงนี้สถานการณ์รุนแรงขึ้นเพราะอะไร เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองหรือเปล่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งอะไรหรือไม่ เกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องไปดูให้ชัดเจน วันนี้ก็มีหลายกลุ่ม หลายฝ่ายที่ออกมาสร้างเหตุรุนแรงในขณะนี้เพื่อยกระดับตัวเองให้มีเกรดสูงขึ้น ดังนั้นเราอย่าไปขยายให้เขา เราต้องไม่ไปเข้าล็อกเขา เขาต้องการที่จะทำอย่างไรก็ได้ให้สังคมตื่นตระหนก หรือให้สังคมกดดันรัฐบาล กดดันภาครัฐเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่เขาต้องการ เป็นสงครามแย่งชิงทางความคิด ดังนั้นเราอย่าเอาความคิดของเราไปตกหลุมพรางเขา เราก็จะหามาตรการทางกฎหมาย และเรื่องการพูดคุยสันติสุข มันต้องทำทั้งหมด ให้ต่างประเทศเห็นว่าเราไม่ได้ใช้กำลังอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้คณะกรรมการต่างๆ เขาดูอยู่ทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือยูเอ็น เขาดูกันหมด ข้อสำคัญคือปัญหาของเราแตกต่างจากหลายประเทศ ดังนั้นก็ต้องแก้ปัญหากันต่อไป” นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนได้กำชับไปหลายอย่าง จุดอ่อนไหวที่สุดมีจำนวนมาก ทั้งวัด โรงเรียน เด็ก ครู สถานที่ประกอบการธุรกิจทั้งหมดถือเป็นพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด แม้แต่ทหารก็ยังเสี่ยงเลยเพราะถูกแวดล้อมด้วยประชาชนทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องหามามาตรการทางการข่าวที่เหมาะสม การระมัดระวังป้องกันฐานตัวเอง และระมัดระวังผู้ที่เข้ามาติดต่อราชการ ต้องเข้มงวดทั้งหมด โดยประชาชนในพื้นที่ก็ต้องร่วมมือด้วย ซึ่งบางครั้งการกำหนดมาตรการอะไรออกมาก็ปฏิบัติได้ยากเพราะประชาชนที่ไม่เดือดร้อนก็กลัวว่าจะกระทบกับสิทธิของตัวเอง ซึ่งมันหลายอย่าง ถ้าเราต้องการสิทธิ เสรีภาพมาก ความไม่ปลอดภัยก็จะเกิดตามมา และเมื่อวานตนได้ออกแถลงการณ์เรื่องนี้ไปแล้วว่ามีมาตรการอะไรบ้าง อย่าให้ใครมาบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ทั้งที่ทำตั้งหลายอย่าง ดังนั้นต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ทางการข่าวยังไม่มีอะไรที่บ่งชี้ว่าจะขยายความรุนแรงเกิดขึ้นอีก