วันนี้ (22 ม.ค.62) นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากนโยบายขับเคลื่อนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนา เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรด้วยกลไกสหกรณ์ รวมทั้งเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เพียงพอกับความต้องการของประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าวใช้กลไกของภาครัฐบริหารจัดการตั้งแต่การคัดเลือกพื้นที่เหมาะสม การจัดการดิน น้ำส่งเสริมการผลิต จัดหาเมล็ดพันธุ์ ปัจจัยการผลิตต่าง ๆ การดูแลพื้นที่เพาะปลูก การเก็บเกี่ยวผลผลิต รวบรวมผลผลิต ตลอดจนจัดหาตลาดรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรที่ลงทะเบียน เป็นการทำงานลักษณะเชื่อมโยงความร่วมมือแบบครบวงจร สานพลังประชารัฐระหว่างภาครัฐ สหกรณ์ และภาคเอกชน การปลูกข้าวโพดหลังนา เป็นระบบการปลูกพืชหมุนเวียน นอกจากจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการทำนาแล้ว ยังสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย การปลูกข้าวโพดหลังนาช่วยทำให้เกิดความสมดุลของจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจน รวมทั้งเพิ่มการหมุนเวียนของธาตุอาหารในสภาพน้ำขังระบบรากข้าวจะดูดธาตุอาหารในบริเวณหน้าดิน ในขณะที่ข้าวโพดมีระบบรากลึกกว่าข้าวจึงสามารถดูดธาตุอาหารได้อีกระดับหนึ่งหลังการปลูกข้าว จึงเป็นการหมุนเวียนธาตุอาหารในระดับความลึกที่แตกต่างกัน การปลูกข้าวโพดหลังนาเกษตรกรไถพรวนดินในระดับที่มีความชื้นเหมาะสม เป็นการช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ส่งผลให้เกิดการสร้างตัวของเม็ดดินจากสารที่จุลินทรีย์ขับออกมา เมื่อจุลินทรีย์ตาย เศษซากของจุลินทรีย์ รวมถึงสารที่จุลินทรีย์ขับออกมา จะช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดินและทำให้ดินร่วนซุยมากขึ้น ก่อนการปลูกข้าวโพดหลังนา เกษตรกรจะไถกลบตอซังข้าว การย่อยสลายของตอซังจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถปลดปล่อยธาตุอาหารให้กับดินได้เป็นอย่างดี และเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดินอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ระบบรากของข้าวโพด ธาตุอาหารที่ตกค้างจากการบำรุงข้าวโพด และตอซังข้าวโพด จะช่วยเพิ่มธาตุอาหารและความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินเช่นกัน การปลูกพืชหมุนเวียนเป็นการรักษาความชื้นในดิน โดยนำเศษซากพืชมาห่มดินหลังการเก็บเกี่ยว ความชื้นในดินและกิจกรรมของสิ่งมีชีวิตในดิน เช่น ไส้เดือน จุลินทรีย์ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการรักษาดินให้เหมาะสมแก่การเพาะปลูกในฤดูถัดไป เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อขอคำแนะนำทุกขั้นตอนของการผลิตได้ที่ หน่วยงานหลัก 5 เสือ ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมชลประทาน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรปรับสมดุลการปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของตลาด