ที่ห้องสอบสวนด่านตรวจหนองสองห้อง กม.ที่ 13 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเร่งรัดปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดจังหวัดหนองคาย ห้วงระยะ 3 เดือน (พ.ย.61 – ม.ค.62) ประกอบด้วยตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคาย, ตำรวจตระเวนชานแดนที่ 245 หนองคาย และกองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.หนองคาย นำโดย พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย, พ.อ.ประภาส อ้อชัยภูมิ รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคาย, พ.ต.ท.ยุธยา สังแสวง ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245 หนองคาย, นายธวัชชัย กงเพชร ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ แถลงข่าวการจับกุมตัว นายสิดปะเสิด สีสะหวาด อายุ 25 ปี ชาวบ้านบุ้งก๋วง เมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ ประเทศลาว พร้อมยาบ้าจำนวน 9,719 เม็ด ที่ซุกซ่อนมาในกระเป๋าสะพายหลัง ขณะจะเดินทางโดยรถตู้โดยสารประจำทางสาย อุดรธานี – หนองคาย (ขาออก) ไปยังจังหวัดอุดรธานี
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดด้านความมั่นคง ณ จุดตรวจหนองสองห้อง ได้พบผู้ต้องสงสัยคือนายสิดปะเสิด นั่งมาภายในรถตู้ประจำทางสายอุดรธานี – หนองคาย (ขาออก) หมายเลขรถ 221-32 หมายเลขทะเบียน 10-7881 อุดรธานี เพื่อจะเดินทางไปยังจังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจดูบัตรประจำตัวประชาชน แต่นายสิดปะเสิด ไม่มีบัตรแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงเชิญตัวลงมาจากรถเพื่อตรวจค้นตัว และกลับไปยังที่นั่งของนายสิดปะเสิด พบกระเป๋าสะพายหลังสีดำวางอยู่บนพื้น จึงได้นำมาตรวจค้น และได้พบวัตถุต้องสงสัย จำนวน 5 ก้อน ซุกซ่อนอยู่ในกล่องบิสกิสสีแดง 1 กล่อง เมื่อตรวจค้นโดยละเอียดจึงพบว่าเป็นยาบ้า จำนวน 9,719 เม็ด ( สีแดง 9,617 เม็ด + สีเขียว 102 เม็ด) จึงได้ควบคุมตัวนายสิดปะเสิด พร้อมของกลางไว้สอบสวน
จากการสอบสวน นายสิดปะเสิด ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างนายเอก (คนบ้านเดียวกัน) ให้นำยาบ้าไปส่งให้กับนายแก่น ชาวไทย ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางตัวเมืองอุดรธานี จึงเดินทางออกจาก บ้านแพง จ.นครพนม ด้วยรถตู้โดยสารสายอุดรธานี – บ้านแพง เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 21 ม.ค.62 เมื่อเดินทางมาถึง จ.หนองคาย ตนคิดว่าถึงที่หมายแล้ว จึงลงรถที่หน้าห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองหนองคาย จากนั้นได้นั่งรถตู้อีกคันเพื่อจะไปส่งยาบ้าตามที่ได้นัดหมาย โดยจะได้ค่าจ้างในการส่งยาบ้า 5 มัดๆ ละ 10,000 บาท (5 x 10,000) หรือ 50,000 บาท และนายเอก ได้ให้ค่าเดินทางมาก่อนล่วงหน้า 5,000 บาท เมื่อส่งยาบ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงจะได้เงินส่วนที่เหลือ แต่เมื่อมาถึงด่านตรวจก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
สุดท้ายนายสิดปะเสิด ได้กล่าวทิ้งท้ายฝากข้อคิดกับนักเสพยาว่า “ติดยาไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะดึงตัวเองให้ต่ำลง และจะไม่มีที่ยืนในสังคม ส่วนนักค้าจุดจบคือชีวิตและคุก เมื่อได้แล้วมีความสุข ได้แล้วอย่าชะล่าใจ”
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดด้านความมั่นคง ณ จุดตรวจหนองสองห้อง ได้พบผู้ต้องสงสัยคือนายสิดปะเสิด นั่งมาภายในรถตู้ประจำทางสายอุดรธานี – หนองคาย (ขาออก) หมายเลขรถ 221-32 หมายเลขทะเบียน 10-7881 อุดรธานี เพื่อจะเดินทางไปยังจังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจดูบัตรประจำตัวประชาชน แต่นายสิดปะเสิด ไม่มีบัตรแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงเชิญตัวลงมาจากรถเพื่อตรวจค้นตัว และกลับไปยังที่นั่งของนายสิดปะเสิด พบกระเป๋าสะพายหลังสีดำวางอยู่บนพื้น จึงได้นำมาตรวจค้น และได้พบวัตถุต้องสงสัย จำนวน 5 ก้อน ซุกซ่อนอยู่ในกล่องบิสกิสสีแดง 1 กล่อง เมื่อตรวจค้นโดยละเอียดจึงพบว่าเป็นยาบ้า จำนวน 9,719 เม็ด ( สีแดง 9,617 เม็ด + สีเขียว 102 เม็ด) จึงได้ควบคุมตัวนายสิดปะเสิด พร้อมของกลางไว้สอบสวน
จากการสอบสวน นายสิดปะเสิด ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างนายเอก (คนบ้านเดียวกัน) ให้นำยาบ้าไปส่งให้กับนายแก่น ชาวไทย ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางตัวเมืองอุดรธานี จึงเดินทางออกจาก บ้านแพง จ.นครพนม ด้วยรถตู้โดยสารสายอุดรธานี – บ้านแพง เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 21 ม.ค.62 เมื่อเดินทางมาถึง จ.หนองคาย ตนคิดว่าถึงที่หมายแล้ว จึงลงรถที่หน้าห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองหนองคาย จากนั้นได้นั่งรถตู้อีกคันเพื่อจะไปส่งยาบ้าตามที่ได้นัดหมาย โดยจะได้ค่าจ้างในการส่งยาบ้า 5 มัดๆ ละ 10,000 บาท (5 x 10,000) หรือ 50,000 บาท และนายเอก ได้ให้ค่าเดินทางมาก่อนล่วงหน้า 5,000 บาท เมื่อส่งยาบ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงจะได้เงินส่วนที่เหลือ แต่เมื่อมาถึงด่านตรวจก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
สุดท้ายนายสิดปะเสิด ได้กล่าวทิ้งท้ายฝากข้อคิดกับนักเสพยาว่า “ติดยาไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะดึงตัวเองให้ต่ำลง และจะไม่มีที่ยืนในสังคม ส่วนนักค้าจุดจบคือชีวิตและคุก เมื่อได้แล้วมีความสุข ได้แล้วอย่าชะล่าใจ”
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป