กรมพัฒนาที่ดิน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงบริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด ร่วมมือส่งเสริมและพัฒนาภาครัฐ 4.0 มุ่งพัฒนาต่อยอดโปรแกรมอ่านข้อมูลรายการบุคคลจากบัตรประจำตัวประชาชน ตรวจสอบและลงลายมือชื่อเป็นแบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ วันนี้ (21 ม.ค.62) นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ร่วมงานแถลงข่าวและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด เพื่อความร่วมมือส่งเสริมและพัฒนาภาครัฐ 4.0 ด้วยการปรับเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล (Digitalization) ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมดิจิทัล โดยมีดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธี ซึ่งมีนางอรนาฏ โอวาทตระกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นางจันทร์เพ็ญ ลาภจิตร ผู้เชี่ยวชาญด้านสารสนเทศ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน ณ ห้องแพลทินัม ฮอลล์ ชั้น 3 โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพฯ นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบงานราชการมาอย่างต่อเนื่อง โดยระบบบริหารราชการยุคใหม่ จะต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการทำงานใหม่ ให้ช่วยอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน สามารถรับบริการได้ในทุกอุปกรณ์ ทุกที่ ทุกเวลา และทุกช่องทาง ได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย จึงได้มีความร่วมมือกับบริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด ในการเชื่อมต่อระบบยืนยันตัวตนและระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับระบบบริการวัสดุการเกษตรของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งแต่เดิมเกษตรกรที่จะเข้ามารับบริการต่างๆ จะต้องกรอกเอกสารใบคำขอพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน ซึ่งเป็นการเปลืองทรัพยากรกระดาษจำนวนมาก และเสียเวลาในการขอรับบริการ หลังจากนี้ จะมีการพัฒนาต่อยอดโปรแกรมอ่านข้อมูลรายการบุคคลจากบัตรประจำตัวประชาชน ให้สามารถตรวจสอบและลงลายมือชื่อเป็นแบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) ได้ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนของกระบวนการทั้งหมดในการให้บริการประชาชนได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้กล่าวชื่นชม กรมพัฒนาที่ดิน ที่ให้การสนับสนุนบริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท Startup ของประเทศไทย โดยการลงนาม MOU ในครั้งนี้ นอกจาก กรมพัฒนาที่ดิน ยังมีหน่วยงานภาครัฐอื่น เช่น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ซึ่งการลงนามในครั้งนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของภาครัฐที่จะเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนประเทศไทยในทุกมิติ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสและเชื่อมโยงประเทศไทยก้าวสู่เวทีโลก อีกทั้งยังปฏิรูปประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ การใช้เอกสารและลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Document&Signature) เป็นการผลักดันและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนปรับตัวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศ สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ รวมถึงนโยบาย Thailand 4.0 ดังนั้น ระบบราชการ จะต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการทำงานใหม่ ต้องปรับตัวเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล (Digitalization) โดยนำเทคโนโลยีที่มีมาบูรณาการและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายลดการใช้กระดาษในองค์กร ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะ ลดค่าใช้จ่ายในภาครัฐ และสร้างความสะดวกในการทำงานยิ่งขึ้น