หากนำเอาไทม์ไลน์วันเลือกตั้ง ใหม่ล่าสุดที่มีแนวโน้มจะเป็นไปได้ในเวลานี้ คงต้องปักป้ายกันเอาไว้วันที่ 24 มี.ค. แล้ว นั่นหมายความว่า การประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้งส.ส.จะมีขึ้นอีกภายในห้วงเวลาไม่กี่วัน คาดว่าจะเป็นวันที่ 23 ม.ค.นี้ จากนั้นวันเปิดรับสมัครส.ส.จะมีขึ้นในราวต้นเดือนก.พ. และในจังหวะนี้ ทุกพรรคการเมืองจะต้อง "เปิดหน้า" โชว์ทั้งว่าที่ผู้สมัครส.ส. ในระบบเขตเลือกตั้ง และระบบบัญชีรายชื่อ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการโชว์ "แคนดิเดตว่าที่นายกฯ" ของทุกพรรค ดังนั้น ในราวกลางเดือนก.พ.เป็นต้นไป โฉมหน้าของว่าที่แคนดิเดต "นายกฯคนที่30" ของทุกพรรคจะปรากฎขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้พิจารณาก่อนตัดสินใจ ซึ่งแน่นอนว่า หน้าตาของว่าที่นายกฯจากพรรคการเมืองต่างๆ ย่อมจะส่งผลต่อการตัดสินใจ และคะแนนเสียงตามมาทันที แม้วันนี้ บรรดาแกนนำจากหลายพรรคการเมือง ระบุว่ายังรอความชัดเจน ว่าที่สุดแล้วทั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะได้ข้อสรุปวันเลือกตั้ง วันที่เท่าใดก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่า ทั้งอีเว้นท์และการเตรียมการรับมือสู้ศึกในสนามเลือกตั้ง จะชะลอไปด้วยแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม กลับพบว่ามีความพยายามจากหลายพรรค ทั้งพรรคว่าที่แกนนำรัฐบาล อย่าง "พลังประชารัฐ" ไปจนถึงพรรคเพื่อไทย และพรรคสาขาที่ประกาศ กวาดที่นั่งส.ส.เข้าสภาผู้แทนราษฎร ให้ได้มากที่สุด เพื่อหวังเป็นรัฐบาลพรรคเดียว และไม่เพียงแต่การเตรียมการเปิดเกมบุก เพื่อสะสมคะแนนเอาไว้สำหรับการผลักดัน แคนดิเดต "นายกฯ"อาจเป็นด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีสถานการณ์อันไม่ปกติเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย ทั้งการปล่อยข่าวว่า "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และแกนนำพรรค ได้รับการผลักดันจาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เป็นเบอร์หนึ่ง จนทำให้ยิ่งลักษณ์ ต้องออกมาทวีตข้อความปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด ตามมาด้วยการสำทับจากแกนนำของพรรครายอื่นๆที่ชี้เบาะแสว่า "ข่าวลือ" ในลักษณะดังกล่าวนั้นต้องการ "เสี้ยม" ให้เกิดความแตกแยกภายในพรรคเพื่อไทย รวมทั้งยังหวังผลให้นำไปสู่การ "ยุบพรรค" เพราะมี "คนนอก" เข้ามาบงการพรรค การออกมาเร่งปิดเกมโจมตี พรรคเพื่อไทย โดยใช้วิธียิงปืนนัดเดียว ได้นกถึง 3 ตัว หนึ่ง คือสร้างรอยร้าวภายในพรรค สอง หวังผลให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบ และ สามคือการ "ตัดตอน" แคนดิเดต อย่าง ชัชชาติ ดับฝันเก้าอี้นายกฯ ตั้งแต่ยังไม่ทันได้มีชื่อขึ้นบัญชีของเพื่อไทย แน่นอนว่าประเด็นปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือ "คนนอก" มือมืดที่จ้องทำลายพรรคตามที่แกนนำของพรรคเพื่อไทย ออกมาตอบโต้หรือ จะเป็นเพราะ "คนใน" กันเองที่เล่นเกม "เตะตัดขา" จนทำให้เกิดความวุ่นวาย หรือไม่ก็ตาม ล้วนแล้วแต่จะมีผลในทางที่เป็นลบ ต่อทั้งพรรคเพื่อไทย ไปจนถึง "คนที่อยู่ต่างประเทศ" ให้แพ้กันตั้งแต่สนามเลือกตั้งยังไม่ทันเปิด !