นายกฯ ขออย่าไปฟังพวกพูดแย่ๆ ชี้เดินหน้าสู่ประชาธิปไตย บ้านเมืองต้องสงบสุข-ห้ามขัดแย้ง แนะเดินไปข้างหน้าอย่าลืมก้มมองหัวแม่เท้า ถ้าไม่มองจะสะดุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 ม.ค. 62 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานและแสดงปาฐกถาพิเศษในงานเปิดตัวโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบลและพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ทั้งนี้ได้มีการแสดงร้องเพลงประสานเสียงเพลง วันพรุ่งนี้ ของนักเรียนโรงเรียนสายน้ำทิพย์และโรงเรียนราชวินิต จากนั้นนายกฯ เป็นประธานสักขีพยานลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า การศึกษาเป็นกลไกในการพัฒนาชาติ และทำให้ประชาชนอ่านออกเขียนได้ คิดวิเคราะห์เป็นและมีทักษะประกอบอาชีพ ที่จะช่วยให้ทุกคนมีขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งรัฐบาลมุ่งหวังให้มีการเรียนรู้ทั้งในระบบและนอกระบบ โดยปัจจุบันมีการขยายโรงเรียนจำนวนมากเพราะต้องการให้ทุกอำเภอ และทุกพื้นที่มีโรงเรียนเพื่อเข้าถึงทางการศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทและห่างไกล ขาดโอกาสเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ จึงไม่ใช่เรื่องของงบประมาณเพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำให้โรงเรียน เหล่านี้มีพื้นฐานมีประสิทธิภาพเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ มีอุปกรณ์และบุคคลากรที่เพียงพอ โดยรัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้จึงต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมมือด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ตนเองได้ฟังเด็กร้องเพลงวันพรุ่งนี้ สะท้อนความต้องการของเด็ก ซึ่งทุกคนก็ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ดังนั้นบ้านเมืองไม่ว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไรต้องสงบเงียบแบบนี้ ขอฝากทุกภาคส่วนทำงานเพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามทั้งหมดคือการปฏิรูปการศึกษา วันนี้คาดหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในรัฐบาลต่อๆไป ไม่ใช่เริ่มอะไรดีๆ มาใหม่ก็เลิกหมด แล้วเมื่อไรจะพอ ถ้าไม่มีการปรับแก้ปัญหาของตัวเองก็คงไปไม่ได้ แต่จะเทงบประมาณเฉพาะแค่เรื่องการศึกษา สาธารณสุขอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะอาจจะไม่ใช่จุดแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อล้ำแค่จุดเดียว ดังนั้นต้องมีการกระจายงบประมาณไปให้ทั่วถึง นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการ ขอให้เป็นไปอย่างสงบสุขเรียบร้อย เด็กๆ ก็บอกแล้วว่าอย่าขัดแย้งกัน พ่อแม่และทุกคนจึงต้องเดินไปข้างหน้าด้วยกัน อย่าไปรับฟังอะไรที่แย่ไปทั้งหมด ขณะเดียวกันการเข้ามาเป็นรัฐบาลในวันหน้า เมื่อเข้ามาแล้วก็มีการทำงานในลักษณะเป็นสภา ต้องมีฝ่ายค้าน และรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหาควบคู่กันมาแต่ที่พูดมาทั้งหมดไม่สามารถทำได้ หากไม่มีแนวทางที่เริ่มต้นไว้ ซึ่งวันนี้เราทำทั้งหมด ทั้งพลังงาน การศึกษา การสร้างเศรษฐกิจใหม่ เราทำไว้หมดแล้วและเดินไปทีละขั้น “มีคนมาพูดว่าเราจะทำให้ตรงนี้ มันไปถึงแล้วยังตรงนู้น ถ้าเราไม่กลับมาดูหัวแม่เท้าตัวเอง มันไปไม่ได้หรอก มันเดินไม่ได้จะสะดุด เดินก็ต้องก้มมองปลายเท้าและเงยมองไปข้างหน้าว่าจะเดินไปยังไง ผมก็ฝากสื่อโซเชียลไว้ด้วย ผมไม่รู้จะโมโหไปทำไม คนที่เขียนก็สนุก ชอบ สื่อก็ขายดีขึ้น แต่ปรากฏว่าประเทศชาติแย่ลง สุขภาพจิตผมก็แย่ ร่างกายผมก็แย่ตามไปด้วย ต่อไปนี้ผมจะไม่ให้ความสำคัญบอกไว้เลยตรงนี้ เพราะให้ความสำคัญมา 5 ปีแล้ว ไม่ได้อะไรขึ้นมา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว ทั้งนี้ภายหลังกล่าวเปิดงาน นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการการเรียนการสอน โดยมีช่วงหนึ่งนายกฯได้ร่วมกิจกรรมเตะฟุตบอลร่วมกับเด็กนักเรียนอย่างสนุกสนานด้วย