วันจันทร์ ที่ 21 มกราคม 2562 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. .พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. , พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1 , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 , พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป ผกก.1 บก.ทท.1 ,แถลงข่าวจับกุมน.ส.อัญธิกา แก้วศรีสุข ผู้ต้องหา ฉ้อโกง อ้างนามสกุล “นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย” หลอกลวงลงทุนทำธุรกิจผิดกฎหมาย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารประเทศของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่างๆ และได้เร่งรัดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จริงจังในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้แต่งตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปอส.ตร.) โดยได้รวบรวมเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถมาปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเพื่อเร่งรัดในการปฏิบัติการติดตามจับกุมโดยคนร้ายมีแผนประทุษกรรมที่ซับซ้อน ซึ่งได้มีผู้เสียหายรวมตัวกันร้องเรียน โดยตรงกับตน ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ว่ามีมิจฉาชีพได้หลอกลวงผู้เสียหายจำนวนหลายราย ผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกซ์ (Facebook & LINE) โดยอ้างว่าเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจหุ้นต่างประเทศ/แลกค่าเงินต่างประเทศ/หวยปิงปองออนไลน์ ซึ่งจะได้ผลตอบแทนจากเงินที่ลงทุนต่อวันเป็นจำนวน 5-10% ของเงินลงทุน และมีการแอบอ้างว่าตนใช้นามสกุลนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จนทำให้ผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อได้โอนเงินให้กลุ่มผู้กระทำผิดจำนวนหลายครั้งและหากผู้เสียหายทราบข้อเท็จจริง ผู้ต้องหาก็จะพูดจาเชิงข่มขู่ผ่านแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์ ว่าจะดำเนินคดีกับผู้เสียหาย จากนั้นเอาเงินทรัพย์สินของผู้เสียหายและหลบหนีไป รวมความเสียหาย 7ราย เป็นเงินจำนวน 3,254,000 บาท พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีผู้เสียหายแจ้งความไว้หลายท้องที่ประกอบด้วย 1.สภ.เมืองระยอง จว.ระยอง ความเสียหาย 1,310,000 บาท(ถอนคำร้องทุกข์) 2.สน.ลาดพร้าว จว.กรุงเทพมหานคร ความเสียหาย 1,270,000 บาท 3.สภ.แกลง จว.ระยอง ความเสียหาย 230,900 บาท 4.สภ.เมืองกระบี่ จว.กระบี่ ความเสียหาย 178,000 บาท 5.สภ.ทุ่งมหาเมฆ จว.กรุงเทพมหานคร ความเสียหาย 104,000 บาท 6.สภ.ปัว จว.น่าน ความเสียหาย 50,000 บาท 7.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จว.เชียงใหม่ ความเสียหาย 40,000 บาท 8.สภ.เมืองชลบุรี จว.ชลบุรี ความเสียหาย 40,000 บาท 9.สภ.ศีขรภูมิ จว.สุรินทร์ ความเสียหาย 32,000 บาท จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.อัญธิกา แก้วศรีสุข ซึ่งมีหมายจับของศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ 350/2560 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 และ หมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 335/2561 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” สำหรับการกระทำของ น.ส.อัญธิกา แก้วศรีสุข จึงเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา หมายตรา 341 ความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่าขอสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ ถึงประชาชนทั่วไป ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกหลอกหรือโฆษณาชวนเชื่อ และสงสัยว่าอาจตกเป็นเหยือ ให้สอบถามข้อมูลได้ที่ ศปอส.ตร.โทร 1155 หรือ ผ่านแอฟพิเคชั่นไลน์(ศปอส.ตร.) หรือ ผ่านเฟซบุ๊ก(Facebook) ของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล เพื่อดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป