กรมบัญชีกลางแจงมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ.62 ให้ผู้ชำระเงินซื้อสินค้าหรือรับบริการในเมืองไทย โดยใช้บัตรเดบิตของตนเองซึ่งออกในประเทศไทย หรือชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดที่ผู้ให้บริการได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริการชำระเงินภายใต้การกำกับเช่น ชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ย้ำเฉพาะผู้ลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้-31ม.ค.62 ถึงจะได้รับสิทธิ น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางได้จัดประชุมชี้แจง เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการไปยังผู้ประกอบการร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการต่างๆที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีความประสงค์เข้าร่วมมาตรการฯ เช่น สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และบริษัทตัวแทนห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกต่างๆ เป็นต้น ขณะนี้มีจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมมาตรการกับกรมบัญชีกลางแล้ว34 ร้านค้า มีจำนวนสาขา 5,435 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ม.ค.62) และยังไม่รวมจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่รับสมัครจากสำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการจำนวนหนึ่งแล้ว โดยกรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดจะรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมมาตรการจนถึงวันที่ 31 ม.ค.62 และเพื่อให้ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ซื้อสินค้าและบริการที่หลากหลายและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น กรมบัญชีกลางได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้าด้านอื่นๆให้มาสมัครเข้าร่วมมาตรการฯเพิ่มเติมได้แก่ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทย สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ สมาคมการค้าเครื่องกีฬา สมาคมการค้าเครื่องไฟฟ้า สมาคมการค้าเฟอร์นิเจอร์ไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมค้าทอง สมาคมการค้าส่ง - ปลีกไทย สมาคมผู้จำหน่ายตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ สมาคมผู้ค้ายางรถยนต์ สมาคมค้าปลีกและเอสเอ็มอีทุนไทย สมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการ สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงบริษัทตัวแทนด้านโทรคมนาคมและเครื่องมือสื่อสาร ให้เข้าร่วมมาตรการฯ เพื่อเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ประชาชนที่ซื้อสินค้าหรือบริการในช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยการชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่รวมถึงการชำระโดยบัตรเครดิต และการชำระค่าสินค้าของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายอื่น ๆ ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มการสมัครได้ทางเว็บไซต์ www.cgd.go.th ตั้งแต่วันนี้-31 ม.ค.62 โดยมีขั้นตอนและเอกสารที่ร้านค้าต้องใช้ในการสมัคร คือ 1.กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มฯ 2.สำเนาทะเบียนพาณิชย์/สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท 3.สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(ภพ.20) กรณีมอบอำนาจ ต้องมีใบมอบอำนาจ และบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ โดยผู้ประกอบการร้านค้าที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯสมัครได้ที่กรมบัญชีกลาง ที่ห้องกำปั่นเงิน อาคาร 3 ชั้น 1 ส่วนผู้ประกอบการร้านค้าที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค สมัครได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ในส่วนของประชาชนที่สนใจเข้าร่วมมาตรการฯ สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.epayment.go.th และสาขาธนาคารเจ้าของบัตรเดบิต ขอความร่วมมือช่วยรับลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.epayment.go.th ระหว่างวันนี้-31 ม.ค.62 เท่านั้นจึงจะมีสิทธิเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสดหรือชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดที่เป็นมาตรฐานเดียวกันระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ.62 โดยจะแยกจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ออกจากราคาสินค้าและบริการที่ได้ชำระ และจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวนเท่ากับ ร้อยละ 5 สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน ขณะนี้มีประชาชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการจำนวนน้อยมาก จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้ลงทะเบียนสมัครเพื่อรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการนี้ “ขอให้ประชาชนที่สมัครลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแล้วแจ้งผู้ประกอบการร้านค้า ณ จุดการชำระเงิน ด้วยว่าเป็นการซื้อสินค้าและบริการตามมาตรการดังกล่าว ขณะเดียวกันขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการให้สอบถามประชาชนก่อนดำเนินการชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการอย่างครบถ้วนสมบูรณ์”