นกหัสดีลิงค์เทินบุษบก สวยสง่าบนยอดเขาพระสุเมรุ ด้วยหลอดไฟนานาชนิด ขณะที่ 1 ในช่างปั้นถวายงานในหลวงรัชกาลที่ 9 ปั้นหุ่น "หลวงพ่อคูณ" ท่านั่งยองต้นแบบจากวัดบ้านไร่ ประดิษฐานหน้าเมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ฯ เพื่อให้ญาติโยมได้กราบไหว้
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 19 ม.ค.2562 รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. พร้อมด้วย รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจทีมช่างศิลป์จิตอาสา ประชาชนจิตอ่สาและนักศึกษา มข.ที่ร่วมกันเร่งประดับตกแต่งโดยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระสุเมรุ สถานที่สำหรับการใช้ฌาปนกิจครูใหญ่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามสว่างไสว เด่นเป็นตระหง่าน ทั่วทั้งบริเวณฌาปนสถานชั่วคราววัดหนองแวงพระอารามหลวง ภายในเกาะกลางน้ำ ด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน ริม ถ.เลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังทีมช่างศิลป์ ได้ติดตั้งระบบไฟเต็มระบบ ที่สื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ เรียบง่าย สมถะ และสมเกียรติ
ขณะที่ประชาชนและศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงผู้ที่มห้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อคูณ ต่างเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ มาชมนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขณะที่คณะทำงานได้มีการนำรูปปั้นหลวงพ่อคูณท่านั่งยองมาประดิษฐานที่บริเวณด้านหน้าของนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก โดยเป็นรูปปั้นหลวงพ่อคูณฝีมือของ อ.กิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา อาจารย์พิเศษหลักสูตรทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา ซึ่งเป็น 1 ในช่างปั้นถวายงานในในหลวงรัชกาลที่ 9
รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. กล่าวว่า คณะทำงานได้ปรับแก้ไขระบบไฟต่างๆให้ลงตัวแล้ว ตามความเหมาะสม คือต้องดูศักดิ์สิทธิ์ เรียบง่าย สมถะ และสมเกียรติ ขณะเดียวกันยังได้รับการประสานจาก อ.กิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา 1 ในช่างปั้นของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้มีการประสานการมีส่วนร่วม จึงได้มีการพูดคุยกันว่า เมรุลอยชั่วคราวนกหัสดีลิงค์นี้ยังไม่มีเจ้าของ แต่ทั้งนี้เจ้าของเมรุทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นใคร เพราะมองไม่เห็นอยู่ในใจของพวกเราทุกคน อาจารย์กิตติชัยจึงขออาสาปั้นหลวงพ่อคูณท่านั่งยองเหมือนที่วัดบ้านไร่ ทางคณะจึงรู้สึกยินดีอย่างมาก แต่มีเงื่อนไขว่าต้องคุยกับทางวัดบ้านไร่ ซึ่งทางวัดบ้านไร่ก็ไม่มีปัญหาหากจะมีการปั้นรูปเหมือนหลวงพ่อคูณประดิษฐานที่เมรุลอยนกหัสดีลิงค์
" หลังจาก อ.กิตติชัยปั้นเสร็จ ก็ได้อัญเชิญรูปปั้นหลวงพ่อคูณมาประดิษฐานที่ด้านหน้าของนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก ปรากฏว่า หลังจากที่มีการเผยแพร่ลงทางสื่อโซเชียล จากปกติที่มีประชาชนและศิษยานุศิษย์ เดินทางมาวันละหลักร้อยหลักพันคน แต่ในวันนี้มีประชาชนเดินทางมาถึงหมื่คน ซึ่งบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อเห็นรูปปั้นของหลวงพ่อคูณที่ประดิษฐานอยู่ภายในบริเวณฌาปนสถานฯ"
รศ.ดร.นิยม กล่าวต่ออีกว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงอยากจะเน้นย้ำขอความร่วมมือทุกคนที่เดินทางมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขอให้อยู่ในอากัปกริยาที่สำรวม ไม่สัมผัสกับงานศิลป์ทุกชิ้นที่อยู่ภายในฌาปนสถาน โดยในช่วงนี้ ทางช่างศิลป์ยังคงดำเนินการเก็บงานในส่วนที่เหลืออยู่ ให้ระมัดระวังอาจเหยียบหรือชนอุปกรณ์ที่ช่างศิลป์ใช้ตกแต่งเก็บงานได้ และในช่วงวันที่ 22-28 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มข.ก็ได้เปิดให้ทุกคนนั้นได้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ยังคงขอให้ทุกคนคำนึงความสำรวมเป็นสำคัญ การถ่ายรูป หรือการเดินชมภายในบริเวณฌาปนสถานฯขออย่าแตะต้องงานศิลป์ทุกชิ้น เพราะทุกชิ้นหากเกิดพลาดจะแตกหักเสียหายได้ง่าย เพราะเป็นเพียงปูนปั้นเท่านั้น
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 19 ม.ค.2562 รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. พร้อมด้วย รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจทีมช่างศิลป์จิตอาสา ประชาชนจิตอ่สาและนักศึกษา มข.ที่ร่วมกันเร่งประดับตกแต่งโดยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระสุเมรุ สถานที่สำหรับการใช้ฌาปนกิจครูใหญ่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามสว่างไสว เด่นเป็นตระหง่าน ทั่วทั้งบริเวณฌาปนสถานชั่วคราววัดหนองแวงพระอารามหลวง ภายในเกาะกลางน้ำ ด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน ริม ถ.เลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังทีมช่างศิลป์ ได้ติดตั้งระบบไฟเต็มระบบ ที่สื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ เรียบง่าย สมถะ และสมเกียรติ
ขณะที่ประชาชนและศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงผู้ที่มห้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อคูณ ต่างเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ มาชมนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขณะที่คณะทำงานได้มีการนำรูปปั้นหลวงพ่อคูณท่านั่งยองมาประดิษฐานที่บริเวณด้านหน้าของนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก โดยเป็นรูปปั้นหลวงพ่อคูณฝีมือของ อ.กิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา อาจารย์พิเศษหลักสูตรทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา ซึ่งเป็น 1 ในช่างปั้นถวายงานในในหลวงรัชกาลที่ 9
รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. กล่าวว่า คณะทำงานได้ปรับแก้ไขระบบไฟต่างๆให้ลงตัวแล้ว ตามความเหมาะสม คือต้องดูศักดิ์สิทธิ์ เรียบง่าย สมถะ และสมเกียรติ ขณะเดียวกันยังได้รับการประสานจาก อ.กิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา 1 ในช่างปั้นของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้มีการประสานการมีส่วนร่วม จึงได้มีการพูดคุยกันว่า เมรุลอยชั่วคราวนกหัสดีลิงค์นี้ยังไม่มีเจ้าของ แต่ทั้งนี้เจ้าของเมรุทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นใคร เพราะมองไม่เห็นอยู่ในใจของพวกเราทุกคน อาจารย์กิตติชัยจึงขออาสาปั้นหลวงพ่อคูณท่านั่งยองเหมือนที่วัดบ้านไร่ ทางคณะจึงรู้สึกยินดีอย่างมาก แต่มีเงื่อนไขว่าต้องคุยกับทางวัดบ้านไร่ ซึ่งทางวัดบ้านไร่ก็ไม่มีปัญหาหากจะมีการปั้นรูปเหมือนหลวงพ่อคูณประดิษฐานที่เมรุลอยนกหัสดีลิงค์
" หลังจาก อ.กิตติชัยปั้นเสร็จ ก็ได้อัญเชิญรูปปั้นหลวงพ่อคูณมาประดิษฐานที่ด้านหน้าของนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก ปรากฏว่า หลังจากที่มีการเผยแพร่ลงทางสื่อโซเชียล จากปกติที่มีประชาชนและศิษยานุศิษย์ เดินทางมาวันละหลักร้อยหลักพันคน แต่ในวันนี้มีประชาชนเดินทางมาถึงหมื่คน ซึ่งบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อเห็นรูปปั้นของหลวงพ่อคูณที่ประดิษฐานอยู่ภายในบริเวณฌาปนสถานฯ"
รศ.ดร.นิยม กล่าวต่ออีกว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงอยากจะเน้นย้ำขอความร่วมมือทุกคนที่เดินทางมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขอให้อยู่ในอากัปกริยาที่สำรวม ไม่สัมผัสกับงานศิลป์ทุกชิ้นที่อยู่ภายในฌาปนสถาน โดยในช่วงนี้ ทางช่างศิลป์ยังคงดำเนินการเก็บงานในส่วนที่เหลืออยู่ ให้ระมัดระวังอาจเหยียบหรือชนอุปกรณ์ที่ช่างศิลป์ใช้ตกแต่งเก็บงานได้ และในช่วงวันที่ 22-28 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มข.ก็ได้เปิดให้ทุกคนนั้นได้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ยังคงขอให้ทุกคนคำนึงความสำรวมเป็นสำคัญ การถ่ายรูป หรือการเดินชมภายในบริเวณฌาปนสถานฯขออย่าแตะต้องงานศิลป์ทุกชิ้น เพราะทุกชิ้นหากเกิดพลาดจะแตกหักเสียหายได้ง่าย เพราะเป็นเพียงปูนปั้นเท่านั้น