นายยอดขวัญ จุณณะปิยะ ผู้อำนวยการเขตสายไหม เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร กำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่เป็นมลพิษสะสมในเมืองเพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเผาไหม้ของ รถเครื่องยนต์ดีเซล การเผาในที่โล่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย เนื่องจากฝุ่นละอองสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนลึกสุดได้ และจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองและอักเสบในระบบทางเดินหายใจ ทำให้ประชาชนเจ็บป่วยจากมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีเพราะดำรงชีวิตอยู่กับสภาพการจราจรหนาแน่นโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน สำนักงานเขตฯ ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของประชาชนที่ต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นละออง จึงขอความร่วมมือสถานประกอบการในพื้นที่ อาทิ โรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ สถานที่ก่อสร้างต่างๆ อู่รถโดยสารประจำทางรับจ้าง และท่ารถโดยสารประจำทาง ลดปริมาณฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิด ผู้อำนวยการเขตสายไหม กล่าวต่อว่า ประชาชนสามารถป้องกันฝุ่นละออง ด้วย 5 มาตรการ “หลีก ปิด ใช้ เลี่ยง ลด” คือ 1.หลีกการสัมผัสฝุ่นละออง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ 2.ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด ป้องกันฝุ่นละออง หมั่นทำความสะอาดบ้านทุกวัน 3.ใช้หน้ากากที่มีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ 4.เลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานนานกว่า 12 ชั่วโมงในที่โล่งแจ้ง และ 5.ลดการใช้รถยนต์และการเผาขยะ ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น หายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ หรือหมดสติ ให้รีบไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลโดยเร็ว