วันที่ 18 ม.ค.62 เวลา 10.00 น. ที่ห้องสอบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ถนนเลี่ยงเมืองหนองคาย – เวียงจันทน์ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมใจประสงค์ พ.ต.ท.หญิงธารทิพย์ จำรัส รอง ผกก.ตม.จังหวัดหนองคาย พ.ต.ท.ธีรพงศ์ ประจักษ์จิตร์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย พ.ต.ท.ธรณินทร์ ศรีทอง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.ท.อำนาจ จุริตทะโย สวป.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ประเสริฐ วิจิตรทัศนา ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย และ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้แถลงข่าวการจับกุมตัว นายจูเลี่ยน อันเดร จูเนียร์ คอตติ้ง (Mr.Julien Andre Junior Cotting) อายุ 25 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” (Overstay 320 วัน) ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้ ณ บริเวณหน้าเกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ในตัวเมืองหนองคาย
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ม.ค.62 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติก่อเหตุลักทรัพย์ที่โรงแรมช่อฟ้าแกลอรี่หนองคาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งได้ รับแจ้งจาก น.ส.สายอรุณ ก้อนแหวน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/115 ม.11 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย (เป็นเจ้าของโรงแรม) ว่า ได้วางกระเป๋าสะพายยี่ห้อ Fila สีแดง พาดไว้ที่เก้าอี้บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ซึ่งในเวลาดังกล่าวได้มีผู้ต้องสงสัยคือนายจูเลี่ยน ซึ่งเป็นลูกค้า กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในโรงแรม ในขณะที่นางสาวสายอรุณ ได้เดินไปที่หลังโรงแรม เมื่อกลับเข้ามาที่ล็อบบี้ปรากฎว่ากระเป๋าได้หายไป และพบว่าในเวลาเกิดเหตุมีเพียงนายจูเลี่ยนเท่านั้น ที่นั่งอยู่บริเวณดังกล่าว ส่วนนายจูเลี่ยน ได้หายตัวออกไปจากโรงแรมแล้ว จึงสันนิษฐานว่า นายจูเลี่ยน น่าจะเป็นคนขโมยเอากระเป๋าของตนไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และพบว่า นายจูเลี่ยนได้หยิบเอากระเป๋าใบดังกล่าวของ นางสาวสายอรุณไปจริงๆ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย จึงได้ติดตามพฤติการณ์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติรายดังกล่าว กระทั่งพบตัวนายจูเลี่ยน อยู่ริมถนนหน้าเกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย จึงแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้นตัวและเอกสารประจำตัวของนายจูเลี่ยน พบว่าการอนุญาตหนังสือเดินทางนั้นสิ้นสุด โดยนายจูเลี่ยน ได้ใช้หนังสือเดินทางเข้ามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 และ หนังสือเดินทางสิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2561 ซึ่งการอนุญาตสิ้นสุดหรือ (Overstay 321 วัน) จึงได้ทำการ จับกุมตัวนายจูเลี่ยน ในข้อหาพำนักในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด ลักทรัพย์ในเคหสถาน นอกจากนี้ยังพบว่า นายจูเลี่ยน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ในคดีความผิดฐานลักทรัพย์ (แหวนเพชร) ในเคหสถานในเวลากลางคืน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 อีกหนึ่งคดีอีกด้วย ซึ่งจากนี้จะได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย และ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ม.ค.62 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติก่อเหตุลักทรัพย์ที่โรงแรมช่อฟ้าแกลอรี่หนองคาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งได้ รับแจ้งจาก น.ส.สายอรุณ ก้อนแหวน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/115 ม.11 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย (เป็นเจ้าของโรงแรม) ว่า ได้วางกระเป๋าสะพายยี่ห้อ Fila สีแดง พาดไว้ที่เก้าอี้บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ซึ่งในเวลาดังกล่าวได้มีผู้ต้องสงสัยคือนายจูเลี่ยน ซึ่งเป็นลูกค้า กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในโรงแรม ในขณะที่นางสาวสายอรุณ ได้เดินไปที่หลังโรงแรม เมื่อกลับเข้ามาที่ล็อบบี้ปรากฎว่ากระเป๋าได้หายไป และพบว่าในเวลาเกิดเหตุมีเพียงนายจูเลี่ยนเท่านั้น ที่นั่งอยู่บริเวณดังกล่าว ส่วนนายจูเลี่ยน ได้หายตัวออกไปจากโรงแรมแล้ว จึงสันนิษฐานว่า นายจูเลี่ยน น่าจะเป็นคนขโมยเอากระเป๋าของตนไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และพบว่า นายจูเลี่ยนได้หยิบเอากระเป๋าใบดังกล่าวของ นางสาวสายอรุณไปจริงๆ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย จึงได้ติดตามพฤติการณ์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติรายดังกล่าว กระทั่งพบตัวนายจูเลี่ยน อยู่ริมถนนหน้าเกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย จึงแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้นตัวและเอกสารประจำตัวของนายจูเลี่ยน พบว่าการอนุญาตหนังสือเดินทางนั้นสิ้นสุด โดยนายจูเลี่ยน ได้ใช้หนังสือเดินทางเข้ามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 และ หนังสือเดินทางสิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2561 ซึ่งการอนุญาตสิ้นสุดหรือ (Overstay 321 วัน) จึงได้ทำการ จับกุมตัวนายจูเลี่ยน ในข้อหาพำนักในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด ลักทรัพย์ในเคหสถาน นอกจากนี้ยังพบว่า นายจูเลี่ยน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ในคดีความผิดฐานลักทรัพย์ (แหวนเพชร) ในเคหสถานในเวลากลางคืน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 อีกหนึ่งคดีอีกด้วย ซึ่งจากนี้จะได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย และ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.