ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ ที่เป็นทายาทและสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมผู้สูงอายุ จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกโกงเงินค่าทำศพกว่า 3 ล้าน ถือป้ายเรียกร้องความเป็นธรรม พร้อมแสดงความไม่พอใจ หลังทางเทศบาล กรรมการสมาคมฯ และตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมเบี้ยวไม่มาชี้แจงความคืบหน้าและหาข้อสรุปตามนัด พร้อมขู่จะรวมตัวบุกร้องผู้ว่าฯ และแจ้งความดำเนินคดีกรรมการสมาคมฯ
17 ม.ค.62 ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ ทั้งที่เป็นทายาท และสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมผู้สูงอายุจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มารอฟังคำชี้แจงและข้อสรุปในการแก้ปัญหา กรณีที่ทางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ดังกล่าว เบี้ยวเงินค่าจัดการศพของสมาชิกที่เสียชีวิตปี 2560-2561 รวมกว่า 100 ราย เฉลี่ยรายละ 25,000 บาท และเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าของสมาชิกที่จ่ายไปรวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งทางสมาคมฯ ตัวแทนเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ได้นัดหมายให้มาพูดคุยไกล่เกลี่ยหาข้อสรุปร่วมกันในวันนี้ ที่ศาลาการเปรียญวัดกลาง(พระอารามหลวง) ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
แต่พอถึงเวลานัดหมายทั้งประธาน กรรมการสมาคมฯ ตัวแทนเทศบาล และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กลับไม่มาตามนัดอ้างว่าติดภารกิจไม่สามารถมาได้ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน ผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก จึงได้พากันออกมายืนถือป้ายเรียกร้องความรับผิดชอบและความเป็นธรรม
พร้อมทั้งยืนยันว่าจะพากันเดินทางไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมทั้งจะรวบรวมเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดกับสมาคมด้วย เพราะที่ผ่านมาเคยยื่นหนังสือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และมีการนัดไกล่เกลี่ยหาข้อสรุปร่วมกันมาแล้วถึง 5ครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
ซึ่งจากข้อมูลพบว่าสมาคมดังกล่าวมีสมาชิกกว่า 800 ราย ที่ผ่านมาสมาคมฯ มีการเก็บค่าทำศพจากสมาชิก กรณีที่สมาชิกเสียชีวิตศพละ 30 บาท มาตั้งแต่ปี 2535 ส่วนมากจะเก็บล่วงหน้าตลอด แต่ไม่เคยชี้แจงรายละเอียดให้สมาชิกรับทราบ กระทั่งเกิดปัญหาก็ปัดความรับผิดชอบ
นางรำพึง ประชุมดี อายุ 59 ปี ตัวแทนทายาทของสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมผู้สูงอายุ กล่าวว่า รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ทางสมาคมฯ เทศบาล และศูนย์ดำรงธรรม ไม่มาชี้แจงความคืบหน้าหรือหาข้อสรุปตามที่นัดหมาย เหมือนหลอกให้ชาวบ้านมาพอถึงเวลาก็อ้างว่าติดภารกิจ แล้วก็ปล่อยลอยแพไม่สนใจใยดีชาวบ้าน และผู้สูงอายุ ที่ต้องเสียเวลาทำมาหากินและเสียค่าใช้จ่ายเดินทางมา เพื่อต้องการจะมาฟังข้อสรุปว่าจะช่วยเหลือหรือมีข้อสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ก็ได้เรียกร้องให้สมาคมออกมารับผิดชอบเพราะหลายคนส่งเงินไปตั้งแต่ก่อตั้งฯ สมาคม เป็นเงินหลักแสนบาทแล้ว เพื่อหวังว่าหากพ่อแม่เสียชีวิตจะช่วยแบ่งเบาภาระเงินค่าจัดงานศพได้บ้าง แต่สุดท้ายกลับมาถูกฉ้อโกงแบบนี้
ด้านนางเสน่ห์ โอรสรัมย์ อายุ 63 ปี ทายาทอีกราย บอกว่า แม่ที่เป็นสมาชิกฯ เสียชีวิตไปตั้งแต่เดือน เม.ย.2561 แล้ว แต่ทางสมาคมฯ จ่ายเงินให้แค่ 15,000 บาท ยังค้างอยู่อีกกว่า 13,000 บาท โดยอ้างว่าขาดสภาพคล่อง จนจำเป็นต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบอีก 10,000 บาท เพื่อมาเป็นค่าจัดงานศพแม่ หลังจัดงานศพเสร็จก็ไปทวงถามเงินที่เหลือที่ทางสมาคมฯติดค้างอยู่ เพื่อจะได้นำไปใช้หนี้ที่ยืมมา แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอดจนถึงทุกวันนี้เกือบปีแล้ว เดือดร้อนมากเพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้และดอกเบี้ยที่กู้มา ก็อยากให้ทางสมาคมฯ ออกมารับผิดชอบด้วย
แต่พอถึงเวลานัดหมายทั้งประธาน กรรมการสมาคมฯ ตัวแทนเทศบาล และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กลับไม่มาตามนัดอ้างว่าติดภารกิจไม่สามารถมาได้ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน ผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก จึงได้พากันออกมายืนถือป้ายเรียกร้องความรับผิดชอบและความเป็นธรรม
พร้อมทั้งยืนยันว่าจะพากันเดินทางไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมทั้งจะรวบรวมเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดกับสมาคมด้วย เพราะที่ผ่านมาเคยยื่นหนังสือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และมีการนัดไกล่เกลี่ยหาข้อสรุปร่วมกันมาแล้วถึง 5ครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
ซึ่งจากข้อมูลพบว่าสมาคมดังกล่าวมีสมาชิกกว่า 800 ราย ที่ผ่านมาสมาคมฯ มีการเก็บค่าทำศพจากสมาชิก กรณีที่สมาชิกเสียชีวิตศพละ 30 บาท มาตั้งแต่ปี 2535 ส่วนมากจะเก็บล่วงหน้าตลอด แต่ไม่เคยชี้แจงรายละเอียดให้สมาชิกรับทราบ กระทั่งเกิดปัญหาก็ปัดความรับผิดชอบ
นางรำพึง ประชุมดี อายุ 59 ปี ตัวแทนทายาทของสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมผู้สูงอายุ กล่าวว่า รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ทางสมาคมฯ เทศบาล และศูนย์ดำรงธรรม ไม่มาชี้แจงความคืบหน้าหรือหาข้อสรุปตามที่นัดหมาย เหมือนหลอกให้ชาวบ้านมาพอถึงเวลาก็อ้างว่าติดภารกิจ แล้วก็ปล่อยลอยแพไม่สนใจใยดีชาวบ้าน และผู้สูงอายุ ที่ต้องเสียเวลาทำมาหากินและเสียค่าใช้จ่ายเดินทางมา เพื่อต้องการจะมาฟังข้อสรุปว่าจะช่วยเหลือหรือมีข้อสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ก็ได้เรียกร้องให้สมาคมออกมารับผิดชอบเพราะหลายคนส่งเงินไปตั้งแต่ก่อตั้งฯ สมาคม เป็นเงินหลักแสนบาทแล้ว เพื่อหวังว่าหากพ่อแม่เสียชีวิตจะช่วยแบ่งเบาภาระเงินค่าจัดงานศพได้บ้าง แต่สุดท้ายกลับมาถูกฉ้อโกงแบบนี้
ด้านนางเสน่ห์ โอรสรัมย์ อายุ 63 ปี ทายาทอีกราย บอกว่า แม่ที่เป็นสมาชิกฯ เสียชีวิตไปตั้งแต่เดือน เม.ย.2561 แล้ว แต่ทางสมาคมฯ จ่ายเงินให้แค่ 15,000 บาท ยังค้างอยู่อีกกว่า 13,000 บาท โดยอ้างว่าขาดสภาพคล่อง จนจำเป็นต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบอีก 10,000 บาท เพื่อมาเป็นค่าจัดงานศพแม่ หลังจัดงานศพเสร็จก็ไปทวงถามเงินที่เหลือที่ทางสมาคมฯติดค้างอยู่ เพื่อจะได้นำไปใช้หนี้ที่ยืมมา แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอดจนถึงทุกวันนี้เกือบปีแล้ว เดือดร้อนมากเพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้และดอกเบี้ยที่กู้มา ก็อยากให้ทางสมาคมฯ ออกมารับผิดชอบด้วย