"เกาะสนามเลือกตั้ง 2562" เรื่อง / ภาพ : ขวัญชัย หาญประโคน ศูนย์ข่าวภูมิภาคบุรีรัมย์ สนามเลือกตั้งจังหวัดบุรีรัมย์ นับเป็นสนามที่หลายคนให้ความสนใจ และจับตามาโดยตลอด เนื่องจากเป็นพื้นที่บ้านเกิดของ "บิ๊กเนม" ของพรรคภูมิใจไทย อย่าง "เนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เจ้าตัวพยายามเฟด ตัวเองออกจากวงการเมืองแล้วหันไปทุ่มเทกับกีฬาฟุตบอล จนประสบความสำเร็จ และล่าสุด "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรค และ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เลขาธิการพรรคฯ ได้นำทีมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้งหมด 350 เขต อย่างยิ่งใหญ่กันที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ยิ่งเหมือนเป็นการประกาศอานุภาพของพรรคภูมิใจไทย ในจังหวัดบุรีรัมย์ ข่มขวัญคู่ต่อสู้ อย่างชัดเจน ทั้งนี้ เขตเลือกตั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่จะพาไปโฟกัส ครั้งนี้คือ เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อำเภอสตึก อำเภอแคนดง อำเภอบ้านด่าน อำเภอเมืองบุรีรัมย์ (เฉพาะ ต.บัวทอง ต.ถลุงเหล็ก ต.กลัน ทา) โดยมี "รังสิกร ทิมาตฤกะ" หรือ "เสี่ยหนุ่ม" จาก พรรคภูมิใจไทย เป็นแชมป์เก่า ขณะที่คู่แข่งคือ "สุรศักดิ์ นาคดี" อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ จากพรรคเพื่อไทย แม้รังสิกร จะขยันลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างสม่ำเสมอ แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะเขตนี้พรรคพลังประชารัฐ ส่ง "วรพจน์ วิบุลย์วิริยะสกุล อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสตึก จ.บุรีรัมย์ ลงชิงเก้าอี้เขต 2 ด้วย รวมทั้ง "ธีรวุฒิ ทับทิมหิน" จากพรรคประชาธิปัตย์ , อิสรีย์ อภิสิริรุจิภาส จากพรรคอนาคตใหม่ ,ชัชวาลย์ โกสุม รองเลขาสมาคมรถตู้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, คณะกรรมการสมาพันธ์รถตู้แห่งประเทศไทย จากพรรคพลังชาติไทย แม้ว่าฐานเสียงทั้งวรพจน์ , ธีรวุฒิ , อิสรีย์ และชัชวาลย์ จะสู้ "รังสิกร" และ "สุรศักดิ์" ไม่ได้ แต่จะสร้างสีสันการแข่งขันให้คึกคักไม่แพ้กันเลยทีเดียว สำหรับ รังสิกร ได้แสดงความมั่นใจว่า ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ของพรรคภูมิใจไทย จะคว้าชัย ชนะยกจังหวัดทั้ง 8 คน หลังชาวบ้านเชื่อมั่นนโยบายแก้ปัญหาปากท้อง มีบุรีรัมย์โมเดลเป็นตัวอย่าง รวมทั้งพรรคยังได้นำเสนอ นโยบายลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน อีกทั้งเกษตรกรชาวนา ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ในพื้นที่ และให้ความสนใจกับนโยบายแก้ปัญหาปากท้องอย่างเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ Profit sharing หรือ ผลประโยชน์แบ่งปัน ที่เน้นผลประโยชน์ของเกษตรกรเป็นหลัก และมุ่งให้เกิดความเสมอภาคและเป็นธรรมโดยใช้กฎหมายอ้อยกับพืชอื่นๆ โดยข้าวที่ชาวนาจะได้ส่วนแบ่ง 70% นอกจากโครงการ อสม. หรือ หมอประจำครอบครัว ที่จะยกระดับโดยได้เงินเดือนแบบขั้นบันได 2,500-10,000 บาท ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน เพราะจะทำให้พวกเขาเข้าถึงการให้บริการทางการแพทย์ได้มากขึ้น ผ่านเทคโนโลยีที่มีอยู่ รวมถึงการให้การศึกษาลูกหลาน เช่น พักหนี้ กยศ. เรียนออนไลน์ ต้องมีวุฒิการศึกษา ซึ่งสอดรับกับนโยบายของพรรคที่มุ่งเน้นเรื่องปากท้องเป็นหลัก "คาดว่าการเลือกครั้งนี้ จะมีการแข่งขันเข้มข้น จากกลุ่มการเมืองหลายพรรคที่เสนอตัวเข้ามา ทั้งการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่กระทบการลงพื้นที่หาเสียง และหากมีการเลื่อนเลือกตั้งก็จะไม่กระทบเช่นกัน เนื่องจากทางพรรคภูมิใจไทยได้กำชับผู้สมัครของพรรคให้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าอำนาจรัฐจะไม่เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง"