ตำรวจรวบ 1 ใน 2 ผู้ต้องหา อ้างเป็นตำรวจ โชว์ปืนและ ระเบิด ข่มขู่ตรวจค้นรีดเอาทรัพย์เหยื่อ 14 ม.ค. 2562 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2561 มีประชาชน เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าบริเวณอาคารห้องเช่าพักอาศัย ย่านหน้า ม.รามคำแหง ในช่วงเวลากลางคืน มีชายฉกรรจ์ จำนวน 2 นาย ตระเวณขี่รถจักรยานยนต์ วนเวียนไปไปตามอาคารต่างๆ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขอตรวจค้นบุคคลที่เดินอยู่ใต้อาคาร หรือบางครั้งจะขึ้นไปเคาะประตูห้องพักเพื่อขอเข้าตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย สำหรับชายฉกรรจ์ทั้งสองรายดังกล่าวไม่ได้แสดงเอกสารที่ยืนยันว่าตนเองนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่ได้กล่าวอ้าง และเมื่อถูกผู้เสียหายถามหาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ บุคคลทั้งสองก็จะแสดงอาวุธปืน หรือวัตถุคล้ายลูกระเบิดให้ดู และใช้กำลังบังคับให้พาขึ้นอาคารไปยังห้องพักเพื่อค้นหาของผิดกฎหมาย นอกจากนี้ตรวจค้นห้องพักของเหยื่อแล้วพบว่ามีสิ่งของที่ผิดกฎหมาย คนร้ายจะเลือกใช้วิธีการเรียกรับเอาทรัพย์สินจากเหยื่อเป็นค่าปิดปาก แลกกับการไม่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้จะเลือกก่อเหตุตามอาคารที่พักที่ไม่มีกล้องวงจรปิด เพื่อการติดตามสืบสวนจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปด้วยความยากลำบาก อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุด ศปอส.ตร. เร่งรัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนและติดตามตัวกลุ่มคนร้ายนี้โดยทันที หากพบว่าคนร้ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจริง ก็จะไม่ปล่อยให้คนร้ายลอยนวล และต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนกระบวนการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ขณะที่จากการลงพื้นที่สืบสวนพบว่าคนร้ายกลุ่มนี้ได้ลงมือก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีผู้เสียหายกล้าเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายเนื่องจากเกรงกลัวว่าตนเองจะมีความผิดไปด้วยในการสืบสวนเชิงลึกทำให้ทราบว่าคนร้าย คือ นายอดิศักดิ์ แช่มช้อย อายุ 26 ปี คนที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ และมีนายกิตติศักดิ์ เพชรอาวุธ อายุ 32 ปี เป็นคนนั่งซ้อนท้าย โดยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เนื่องจากการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง และกดดันอย่างหนัก ทำให้คนร้ายทั้งสองหลบหนีออกจากพื้นที่ย่านรามคำแหงไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องขอหมายจับบุคคลทั้งสองต่อศาลอาญา และศาลได้ออกหมายจับบุคคลทั้งสองคน โดยนายกิตติศักดิ์ เพชรอาวุธ หมายจับศาลอาญาที่ 2586/2561 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2561 ในความผิดข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญและนายอดิศักดิ์ แช่มช้อย หมายจับศาลอาญาที่ 2587/2561 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2561 ในความผิดข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ ต่อมาวันที่ 12 ม.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 2 โดย พ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย รอง ผกก.กก.สส.บก.น.4/หัวหน้าชุดปฏิบัติการ, พ.ต.ท.จักริน พิริยะจิตตะ, พ.ต.ท.ธานี จิตรธรรม สว.สส.บก.น.4 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติ โดย พ.ต.ต.ทวี พลฤทธิ์ สว.สส.ฯ สืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่องจนสามารถจับกุมตัว นายอดิศักดิ์ แช่มช้อย ขณะหลบหนีไปกบดานที่อยู่บ้านเลขที่ 137 ม.4 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนนายกิตติศักดิ์ เพชรอาวุธ อยู่ระหว่างการติดตามตัวจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ พี่น้องประชาชน บุคคลใดที่เคยตกเป็นเหยื่อ ให้กับคนร้ายกลุ่มนี้ ที่อ้างตนว่าเป็นตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมิได้แสดงเอกสารประจำตัวก่อนตรวจค้น และบังคับขู่เข็ญโดยประสงค์ที่จะประทุษร้ายต่อทรัพย์ เรียกร้องเป็นข้อต่อร่องในการหลีกเหลี่ยงการดำเนินคดีตามกฎหมาย ในบริเวณอาคารที่พักย่าน ม.รามคำแหง สามารถติดต่อขอดูตัวคนร้าย และแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคนร้ายได้ที่ ศูนย์ ศปอส.ตร. หรือ ที่ สน.หัวหมาก