การแข่งขันจักรยานลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาเป็นสุดท้ายของการแข่งขัน ทัพนักปั่นไทยมีโปรแกรมขิงชัยหลายอีเว้นต์ โดยเฉพาะในรุ่นเยาวชนที่พาเหนดทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถคว้าเหรียญทองเพิ่มได้อีก1 ทองจาก “ทักษ์ แก้วน้อย” ที่ลงแข่งพ้อยเรซรุ่นเยาวชนชาย 15 กม . หรือจำนวน 60รอบ สปริ้นทุก10 รอบเพื่อเก็บคะแนนแ 5,3,2,1 ตามลำดับ และสปริ้นสุดท้ายคะแนนจะเบิ้ล 10,6,4,2 ตามลำดับ
ทันทีที่เกมเริ่ม ทักษ์ ขึ้นมาเปิดเกมเพื่อหยั่งเชิงคู่ต่อสู้ แต่ไม่มีใครปล่อยให้หนีได้จนมาถึงรอบสปริ้น ทักษ์ กับ อายาส อาเหม็ด จากมาเลเซีย ต่างผลัดกันขึ้นมาเก็บแต้มจนมีคะแนนสูสีกัน ต้องมาวัดกันในสปริ้นสุดท้าย หากใครเข้าเส้นชัยเก็บ10คะแนนได้ก่อนก็จะชนะคว้าแชมป์ และปรากฏว่า ทักษ์ เฉือนสปริ้นเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกโดยมี อาเหม็ด เข้ามาเป็นอันดับ 2 ส่งผลให้ทักษ์ ที่มีอยู่ 25 คะแนนเก็บเพิ่มอีก 10 คะแนนรวมเป็น 35 คะแนน เฉือนเอาชนะ อาเหม็ดไปเพียงแค่ 4 คะแนน คว้าแชมป์เอเชียมาครองได้สำเร็จ ส่วน อาเหม็ด รั้งที่ 2 ทำคะแนนได้ 31 คะแนน และที่ 3 เป็นของนักปั่นจากเจ้าภาพอินโดนีเซีย มี 13 คะแนน
นอกจากนี้ในประเภทคิรินเยาวชนหญิง ไทยส่ง “หนูหิ่น” เยาวเรศ จิตมาตย์ ที่คว้ามาแล้ว 1 เงิน 1 ทองแดง ลงชิงชัย และนักปั่นดาวรุ่งสาวไทยทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปขับเคี่ยวกับ จีน,ฮ่องกง,อินเดีย,คาซัคสถาน และไต้หวัน ที่ผ่านเข้ามาได้ชาติละ 1 คน โดยสามรอบแรกนักกีฬาจะขี่ตามรถนำที่ตัังความเร็ว และเมื่อรถนำออกจากสนามเหลือระยะทางอีก 2 รอบให้ขับเคี่ยวกันเอง จีนเปิดขึ้นมาก่อนโดยมี ฮ่องกง และ เยาวเรศ ไล่ขึ้นมา จากนั้นนักปั่นสาวไทยพยายามจะหาจังหวะขึ้นแซง แต่แซงไม่ได้จนถึงโค้ง 100 เมตรสุดท้าย เยาวเรศ เร่งสปีดเต็มที่มาตีคู่กับฮ่องกง และจีนได้ แต่ จีนที่อาศัยความได้เปรียบที่อยู่หน้าดึงเข้าเส้นชัยไปก่อน ตามด้วย ฮ่องกง และ เยาวเรศ ที่เข้ามาเป็นอันดับ 3 คว้าเหรียญทองแดงปิดท้ายให้ทัพนักกีฬาไทย
ส่วนในช่วงเย็นวันที่ 13 ม.ค.62 พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศฯ เดินทางเป็นประธานต้อนรับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่บางส่วนที่แข่งขันเสร็จก่อนหน้านี้ประกอบด้วย “โอเชะ”ปฐมภพ พลอาจทัน ที่คว้าเหรียญประวัติศาสตร์ให้ทัพนักกีฬาคว้าเหรียญทองประเภทสแคลช ,ธุรกิจ บุญรัตนธนากร ,วชิรวิทย์ แสนคำวงศ์ ,ยุทธนา มะโน ,จตุรงค์ นิวันติ ,วรยุทธ คะปัญญา ,วิริยะ ยะป๋า ,นิติรุจน์ กิจพิริยะกาญจน์ ,ภาสิรี เจริญทรัพยานนท์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนนักกีฬาที่เหลือจะเดินทางกลับในวันที่ 14 ม.ค. สายการบินการูด้า เวลา 16.30 น. และหลังจากที่ต้อนรับคณะนักกีฬาเสร็จสิ้น พลเอกเดชา เหมกระศรี เดินทางต่อไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหารือถึงแนวทางการพัฒนาและส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงแนวทางการจัดระเบียบการแข่งขันของออกาไนท์ในประเทศไทยให้มีมาตราฐานเดียวกันและสอดคล้องกับการจัดการแข่งขันของสหพันธ์จักรยานนานาชาติหรือ UCI ต่อไป
ทันทีที่เกมเริ่ม ทักษ์ ขึ้นมาเปิดเกมเพื่อหยั่งเชิงคู่ต่อสู้ แต่ไม่มีใครปล่อยให้หนีได้จนมาถึงรอบสปริ้น ทักษ์ กับ อายาส อาเหม็ด จากมาเลเซีย ต่างผลัดกันขึ้นมาเก็บแต้มจนมีคะแนนสูสีกัน ต้องมาวัดกันในสปริ้นสุดท้าย หากใครเข้าเส้นชัยเก็บ10คะแนนได้ก่อนก็จะชนะคว้าแชมป์ และปรากฏว่า ทักษ์ เฉือนสปริ้นเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกโดยมี อาเหม็ด เข้ามาเป็นอันดับ 2 ส่งผลให้ทักษ์ ที่มีอยู่ 25 คะแนนเก็บเพิ่มอีก 10 คะแนนรวมเป็น 35 คะแนน เฉือนเอาชนะ อาเหม็ดไปเพียงแค่ 4 คะแนน คว้าแชมป์เอเชียมาครองได้สำเร็จ ส่วน อาเหม็ด รั้งที่ 2 ทำคะแนนได้ 31 คะแนน และที่ 3 เป็นของนักปั่นจากเจ้าภาพอินโดนีเซีย มี 13 คะแนน
นอกจากนี้ในประเภทคิรินเยาวชนหญิง ไทยส่ง “หนูหิ่น” เยาวเรศ จิตมาตย์ ที่คว้ามาแล้ว 1 เงิน 1 ทองแดง ลงชิงชัย และนักปั่นดาวรุ่งสาวไทยทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปขับเคี่ยวกับ จีน,ฮ่องกง,อินเดีย,คาซัคสถาน และไต้หวัน ที่ผ่านเข้ามาได้ชาติละ 1 คน โดยสามรอบแรกนักกีฬาจะขี่ตามรถนำที่ตัังความเร็ว และเมื่อรถนำออกจากสนามเหลือระยะทางอีก 2 รอบให้ขับเคี่ยวกันเอง จีนเปิดขึ้นมาก่อนโดยมี ฮ่องกง และ เยาวเรศ ไล่ขึ้นมา จากนั้นนักปั่นสาวไทยพยายามจะหาจังหวะขึ้นแซง แต่แซงไม่ได้จนถึงโค้ง 100 เมตรสุดท้าย เยาวเรศ เร่งสปีดเต็มที่มาตีคู่กับฮ่องกง และจีนได้ แต่ จีนที่อาศัยความได้เปรียบที่อยู่หน้าดึงเข้าเส้นชัยไปก่อน ตามด้วย ฮ่องกง และ เยาวเรศ ที่เข้ามาเป็นอันดับ 3 คว้าเหรียญทองแดงปิดท้ายให้ทัพนักกีฬาไทย
ส่วนในช่วงเย็นวันที่ 13 ม.ค.62 พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศฯ เดินทางเป็นประธานต้อนรับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่บางส่วนที่แข่งขันเสร็จก่อนหน้านี้ประกอบด้วย “โอเชะ”ปฐมภพ พลอาจทัน ที่คว้าเหรียญประวัติศาสตร์ให้ทัพนักกีฬาคว้าเหรียญทองประเภทสแคลช ,ธุรกิจ บุญรัตนธนากร ,วชิรวิทย์ แสนคำวงศ์ ,ยุทธนา มะโน ,จตุรงค์ นิวันติ ,วรยุทธ คะปัญญา ,วิริยะ ยะป๋า ,นิติรุจน์ กิจพิริยะกาญจน์ ,ภาสิรี เจริญทรัพยานนท์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนนักกีฬาที่เหลือจะเดินทางกลับในวันที่ 14 ม.ค. สายการบินการูด้า เวลา 16.30 น. และหลังจากที่ต้อนรับคณะนักกีฬาเสร็จสิ้น พลเอกเดชา เหมกระศรี เดินทางต่อไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหารือถึงแนวทางการพัฒนาและส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงแนวทางการจัดระเบียบการแข่งขันของออกาไนท์ในประเทศไทยให้มีมาตราฐานเดียวกันและสอดคล้องกับการจัดการแข่งขันของสหพันธ์จักรยานนานาชาติหรือ UCI ต่อไป