ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ“หม่อมเต่า” ได้เขียน 6 ความบทพิเศษ เพื่อทำการเผยแพร่ ได้แก่ บริจาคภาษีให้พรรคการเมือง, ร่วมกันเราทำได้,ค่าอาหารเด็กในโรงเรียน, ธนาคารแห่งประเทศไทย กับ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ. พ.ศ. 2561 , ทบวงจัดเก็บภาษีอิสระ และ พาณิชยนาวี เรือดำน้ำ ท่าเรือพังงา โดย'สยามรัฐ'ออนไลน์ จะนำเสนอเป็นตอนๆ ให้คุณผู้อ่านได้ติดตามดังนี้
สำหรับบทความที่สามในวันนี้ ขอเสนอเรื่อง “ค่าอาหารเด็กในโรงเรียน”
ประเทศไทยก็เจริญดีอยู่นะครับ ใน 65 ปีที่ผ่านมา มีอยู่เพียง 4 ปีที่รายได้ประชาชาติเป็นลบ และเพิ่มจาก 0.27 ล้านล้านบาท เป็น 9,823.1 พันล้านบาท
บางครั้งเจริญช้า บางครั้งเจริญเร็ว แต่เจริญอยู่เรื่อย ๆ ปัญหาพื้นฐานคือความยากจนยังมีอยู่ เด็กไม่ได้รับอาหารเพียงพอที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ รัฐจึงได้จัดระบบอาหารกลางวันเด็กในโรงเรียน มีเด็กที่ได้รับค่าอาหารกลางวัน 20 บาทต่อมื้อ 6.58 ล้านคน ในโรงเรียน 36,849 แห่ง เป็นการประกันว่าบุคคลสามารถเจริญเติบโต ช่วยตัวเองและช่วยชาติได้อย่างสมบูรณ์
รัฐบาลให้ค่าอาหารกลางวัน 20 บาทต่อมื้อ ในว่าเพียงพอที่จะได้สารอาหารทุกชนิด ตกเป็นปีละ 26,320 ล้านบาท ผมว่าน่าจะเพิ่มเป็น 25 บาทต่อมื้อนะครับ ประเทศไทยเจริญพอที่จะเลี้ยงเด็กของประเทศเราดีกว่าความจำเป็นขั้นต่ำ โรงเรียนก็อาจจะเลือกเพิ่มมื้อเช้าให้ หรือมื้อเย็นก่อนกลับบ้านตามความเหมาะสม
การทุจริตในระบบราชการยังมีอยู่มาก ค่าอาหารกลางวันเด็กไม่ยกเว้น แต่การทุจริตค่าอาหารกลางวันเด็กทำลายอนาคตของประเทศและทำลายสุขภาพของประชาชนอย่างที่ยอมรับไม่ได้ เรื่องนี้น่าต้องจัดเป็นพิเศษ ไม่ใช้ขบวนการของรัฐบาล แต่ใช้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อการนี้ในสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน และให้รัฐสภาเป็นผู้ดูแล ทำลายอนาคตของประเทศ พวกเรารับไม่ได้
โปรดติดตามต่อในตอนที่สี่ #6เรื่องที่ควรคิดจากหม่อมเต่า
