12ม.ค.62 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบกรณีที่มีการแชร์คลิปวีดีโอใน เฟซบุ๊ก ปรากฎ ภาพเคลื่อนไหวบันทึกเหตุการณ์ที่สุนัขไล่กัดลูกแมว ภายในบริเวณห้องน้ำในบ้านพัก โดยเจ้าของสุนัขไม่ยอมห้ามปรามหรือไล่สุนัขของตน แต่กลับใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิบวีดีโอ เป็นเหตุให้สุนัขของตนไล่กัดลูกแมวจนได้รับบาดเจ็บและตายในที่เกิดเหตุ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันแพร่หลายในโลกโซเชี่ยล บริเวณบ้านพัก ในเขตพื้นที่ สภ.กุตาไก้ ภ.จว.นครพนม ว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2561 เวลาประมาณ 13.30 น. นายขรรค์ชัย ช่วงชัย ตำแหน่งปศุสัตว์อำเภอปลาปาก ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัข พร้อมได้มอบหลักฐานเป็นคลิปบันทึกภาพเคลื่อนไหวของพฤติการณ์ดังกล่าว ภายหลังรับแจ้งเหตุพนักงานสอบสวนจึงได้รับคำร้องทุกข์เป็นคดีอาญาไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ลงพื้นที่หาเบาะแสเจ้าของสุนัข จนกระทั่งทราบตัวแล้วเป็นหญิงจำนวน 1 ราย จึงได้ติดต่อเชิญตัวมาสอบถามใน วันเดียวกันถึงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนรับว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวและเป็นผู้ถ่ายคลิปบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยกล่าวว่าตนนั้นไม่สามารถที่จะห้ามปรามสุนัขของตนได้เนื่องจากตนเป็นผู้หญิงไม่มีแรงเพียงพอที่จะเข้าไปหยุดสุนัขของตนไม่ให้กัดแมว ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสอบสวนพยานไปแล้วจำนวนหนึ่ง จากคลิปบันทึกภาพเคลื่อนไหวนั้น ปรากฎเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2562 เวลาประมาณ 07.00 น. ได้มีลูกแมวแอบเข้ามากินอาหารสุนัขภายในบ้านของผู้ต้องหาซึ่งเลี้ยงไว้ในบ้านหลังเกิดเหตุ สุนัขของจึงไล่กัดลูกแมวตัวดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหานั้นไม่ยอมห้ามปรามหรือไล่สุนัขของตน แต่กลับใช้โทรศัพท์มือถือของตนถ่าย คลิบวีดีโอ อยู่ที่หน้าประตูทางเข้าห้องที่สุนัขกำลังไล่กัดลูกแมว พร้อมทั้งยืนดันประตูมิให้ลูกแมวนั้นออกมาด้านนอกได้ จนสุนัขนั้นกัดลูกแมวได้รับบาดเจ็บและตาย ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวนั้นถือเป็นการกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต่อมาในวันนี้ 12 ม.ค. 2562 ทางพนักงานสอบสวนนั้นได้ดำเนินการประสานให้ทาง ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ในความผิดฐาน “กระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20 โดยมีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งขณะนี้ทางคดียังคงต้องรอผลการตรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวน จากนั้นพนักงานสอบสวนจะมีความเห็นทางคดีเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามอยากขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงไว้ในความดูแล ให้หมั่นตรวจสอบดูแลสัตว์เลี้ยงของอยู่ตลอด โดยหากมีความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เกิดขึ้นเนื่องจากสัตว์เลี้ยง นั้น ย่อมมีความผิดและมีโทษตามกฎหมายทั้งในส่วนของคดีแพ่งและคดีอาญาตามมา