รวบพ่อค้าส้มตำผลิตปืนขายหารายได้เสริม เผยวิธีส่งกระสุนห่อฟอยล์ฝากเอกชนให้ลูกค้าผ่านฉลุย
เช้าวันที่ 11 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 กรณี พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 สนธิกำลังตำรวจ สน.บุคคโล และ เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าจับกุมผู้ต้องหาคดีผลิตอาวุธปืนส่งขายทางพัสดุไปรษณีย์และบริษัทรับจ้างขนส่งเอกชนให้กับลูกค้า โดยสามารถตรวจยึดของกลางได้ทั้ง อาวุธปืน ชุดลั่นไก กระสุนปืน และเครื่องมือช่างที่ผู้ต้องหาใช้ในการผลิตได้เป็นจำนวนมาก
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ ผกก.สน.บุคคโล และ พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ รอง ผกก.สส.สน.บุคคโล ได้รับรายงานว่า มีผู้ต้องหารายสำคัญในพื้นที่ใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางค้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กหลายชื่อ อาทิ กลุ่มขาโมไทยประดิษฐ์, กลุ่มสายดินสายลมไทยแลนด์, กลุ่ม ลม.ประดิษฐ์, กลุ่มของดีเมืองอุทัย, กลุ่มขายเครื่องมือช่าง งานกลึง งานมิล ปลีกส่ง ฯลฯ จากนั้นเมื่อผู้ต้องหาทำการรับออร์เดอร์จากลูกค้าที่มีคำสั่งเข้ามาทาง อินบ๊อก แมสเสจ เฟซบุ๊ก ก็จะมีการนัดโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ก่อนผลิตสินค้าส่งทางพัสดุไปรษณีย์ หรือบริษัทรับจ้างขนส่งเอกชน จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการซื้อขาย
กระทั่งตำรวจแกะรอยหาตัวจนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ คือ นายเอกชัย หรือ “เอก” สวัสดิ์ประภา อายุ 36 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ปัจจุบันเป็นพ่อค้าส้มตำ เช่าห้องพักอยู่ในบ้านเลขที่ 8 ตรอกสะพานยาว 5 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. ทางผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการให้ พ.ต.ต.พิชิต เอียงสา สว.สส.สน.บุคคโล และ พ.ต.ต.นที ทวนดิลก สวป.สน.บุคคโล สนธิกำลังกับ ร.ต.วรา รัตโนทัย ผบ.มว.ร้อย รส.ป.9 พัน 19 นำกำลังตำรวจและทหาร เข้าทำการขอตรวจค้นที่ห้องเช่าในบ้านดังกล่าว พบ ตัว นายเอกชัย พร้อมของกลาง อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 พร้อมท่อเก็บเสียง 1 กระบอก ชุดลูกเลื่อนสำหรับลั่นไก 12 ชุด เข็มแทงชนวน 7 อัน ลำกล้องปืนยาวขนาด .22 จำนวน 7 อัน กระสุนปืน .38 จำนวน 12 ลูก กระสุนปืน .22 จำนวน 126 ลูก ปืนอัดลมยาว เบอร์ 2 จำนวน 1 กระบอก เครื่องมือช่างและอุปกรณ์การผลิตอาวุธปืนรวมทั้งสิ้นกว่า 40 รายการ
จากการสอบสวน นายเอกชัย ยอมรับว่า ยึดอาชีพขายส้มตำกับภรรยามานานนับสิบปีแล้ว แต่เพิ่งจะหันมาประกอบปืน และชิ้นส่วนอาวุธปืนขายในโลกโซเชียลได้ประมาณ 1 ปี แม้ตนเองจะมีวุฒิแค่ ม.3 แต่ชอบงานช่าง และชอบศึกษาเรื่องอาวุธปืน โดยเฉพาะปืนยาวขนาด .22 ที่ชาวบ้านใช้ยิงนก ยิงปลา ตามสวนไร่นา จึงลองเปิดเว็บยูทูป และเว็บไซต์ใต้ดินต่างๆ เพื่อเรียนรู้ระบบปฏิบัติการของปืน กระทั่งสามารถหาแหล่งสั่งเหล็ก ท่ออลูมิเนียม และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นมาทดลองผลิตปืนยาวขนาด .22 ยิงทีละนัดขึ้นใช้เองได้สำเร็จ โดยเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะนำมาทดลองระบบการทำงานด้วยการยิงใส่กระติกน้ำแข็งขนาดใหญ่อัดด้วยกระสอบเพื่อป้องกันเสียงดังและป้องกันหัวกระสุนทะลุออกไปเป็นอันตรายกับชาวบ้าน
“ส่วนตนทุนการผลิตอาวุธปืน 1 กระบอกนั้นตนลงทุนทำเองไม่ถึง 2,500 บาท แต่หากโพสต์ขายตามกลุ่มเฟซบุ๊กจะได้ราคาอย่างต่ำกระบอกละ 8,000 บาท ทว่าลูกค้าส่วนใหญ่มักสั่งชุดลั่นไก กับลำกล้องจากตนมากกว่า เพื่อไปหาชุดพานท้ายไม้ประกอบใส่กันเอาเอง เนื่องจากแค่ชุดลั่นไก กับลำกล้องส่งเป็นพัสดุได้ง่าย ยากต่อการตรวจจับ ไม่ต้องนัดพบกัน และไม่ต้องแยกส่ง ซึ่งราคาก็จะลดหลั่นกันไป แต่หากมีการสั่งซื้อลูกกระสุน คนในกลุ่มก็จะนำกระสุนปืนห่อกระดาษฟอยล์ก่อน และจะเลือกใช้บริการขนส่งของบริษัทเอกชนเท่านั้นเนื่องจากทดลองส่งกันมาหลายครั้งแล้วไม่ปรากฏว่าเครื่องตรวจของเอกชนจะมีการตรวจพบ” นายเอกชัย กล่าว
เบื้องต้นชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาแก่ นายเอกชัย ว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคดีนี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.จะเดินทางไปสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาเพิ่มเติมด้วยตนเอง พร้อมกับแถลงข่าวผลงาน กก.สส.บก.น.8 จับกุมเครือข่ายค้ายาบ้าพร้อมของกลางประมาณ 1,000,000 เม็ด ที่ลานจอดรถ สน.บางคอแหลม ในช่วงเวลา 11.30 น.วันเดียวกันนี้ต่อไป.
กระทั่งตำรวจแกะรอยหาตัวจนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ คือ นายเอกชัย หรือ “เอก” สวัสดิ์ประภา อายุ 36 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ปัจจุบันเป็นพ่อค้าส้มตำ เช่าห้องพักอยู่ในบ้านเลขที่ 8 ตรอกสะพานยาว 5 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. ทางผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการให้ พ.ต.ต.พิชิต เอียงสา สว.สส.สน.บุคคโล และ พ.ต.ต.นที ทวนดิลก สวป.สน.บุคคโล สนธิกำลังกับ ร.ต.วรา รัตโนทัย ผบ.มว.ร้อย รส.ป.9 พัน 19 นำกำลังตำรวจและทหาร เข้าทำการขอตรวจค้นที่ห้องเช่าในบ้านดังกล่าว พบ ตัว นายเอกชัย พร้อมของกลาง อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 พร้อมท่อเก็บเสียง 1 กระบอก ชุดลูกเลื่อนสำหรับลั่นไก 12 ชุด เข็มแทงชนวน 7 อัน ลำกล้องปืนยาวขนาด .22 จำนวน 7 อัน กระสุนปืน .38 จำนวน 12 ลูก กระสุนปืน .22 จำนวน 126 ลูก ปืนอัดลมยาว เบอร์ 2 จำนวน 1 กระบอก เครื่องมือช่างและอุปกรณ์การผลิตอาวุธปืนรวมทั้งสิ้นกว่า 40 รายการ
จากการสอบสวน นายเอกชัย ยอมรับว่า ยึดอาชีพขายส้มตำกับภรรยามานานนับสิบปีแล้ว แต่เพิ่งจะหันมาประกอบปืน และชิ้นส่วนอาวุธปืนขายในโลกโซเชียลได้ประมาณ 1 ปี แม้ตนเองจะมีวุฒิแค่ ม.3 แต่ชอบงานช่าง และชอบศึกษาเรื่องอาวุธปืน โดยเฉพาะปืนยาวขนาด .22 ที่ชาวบ้านใช้ยิงนก ยิงปลา ตามสวนไร่นา จึงลองเปิดเว็บยูทูป และเว็บไซต์ใต้ดินต่างๆ เพื่อเรียนรู้ระบบปฏิบัติการของปืน กระทั่งสามารถหาแหล่งสั่งเหล็ก ท่ออลูมิเนียม และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นมาทดลองผลิตปืนยาวขนาด .22 ยิงทีละนัดขึ้นใช้เองได้สำเร็จ โดยเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะนำมาทดลองระบบการทำงานด้วยการยิงใส่กระติกน้ำแข็งขนาดใหญ่อัดด้วยกระสอบเพื่อป้องกันเสียงดังและป้องกันหัวกระสุนทะลุออกไปเป็นอันตรายกับชาวบ้าน
“ส่วนตนทุนการผลิตอาวุธปืน 1 กระบอกนั้นตนลงทุนทำเองไม่ถึง 2,500 บาท แต่หากโพสต์ขายตามกลุ่มเฟซบุ๊กจะได้ราคาอย่างต่ำกระบอกละ 8,000 บาท ทว่าลูกค้าส่วนใหญ่มักสั่งชุดลั่นไก กับลำกล้องจากตนมากกว่า เพื่อไปหาชุดพานท้ายไม้ประกอบใส่กันเอาเอง เนื่องจากแค่ชุดลั่นไก กับลำกล้องส่งเป็นพัสดุได้ง่าย ยากต่อการตรวจจับ ไม่ต้องนัดพบกัน และไม่ต้องแยกส่ง ซึ่งราคาก็จะลดหลั่นกันไป แต่หากมีการสั่งซื้อลูกกระสุน คนในกลุ่มก็จะนำกระสุนปืนห่อกระดาษฟอยล์ก่อน และจะเลือกใช้บริการขนส่งของบริษัทเอกชนเท่านั้นเนื่องจากทดลองส่งกันมาหลายครั้งแล้วไม่ปรากฏว่าเครื่องตรวจของเอกชนจะมีการตรวจพบ” นายเอกชัย กล่าว
เบื้องต้นชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาแก่ นายเอกชัย ว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคดีนี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.จะเดินทางไปสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาเพิ่มเติมด้วยตนเอง พร้อมกับแถลงข่าวผลงาน กก.สส.บก.น.8 จับกุมเครือข่ายค้ายาบ้าพร้อมของกลางประมาณ 1,000,000 เม็ด ที่ลานจอดรถ สน.บางคอแหลม ในช่วงเวลา 11.30 น.วันเดียวกันนี้ต่อไป.