กรมการแพทย์แนะต้องคุมความดันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ชีวิต กินอาหารดีมีประโยชน์ คุมน้ำหนัก ออกกำลังสม่ำเสมอ นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า ปัจจุบันสัดส่วนผู้สูงอายุไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากร้อยละ 13.2 ในปี 53 คาดจะเพิ่มเป็นร้อยละ 26.6 ในปี 73 จึงต้องเตรียมความพร้อมดูแลและส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สูงอายุดูแลพึ่งพาตนเองได้ ซึ่ง 1ในโรคที่พบในผู้สูงอายุคือโรคหลอดเลือดสมองที่ทำให้พิการ พบว่าเพศชายเสี่ยงสูงกว่าหญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องได้รับการดูแล รักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จึงมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบตัวผู้ป่วย ครอบครัว ผู้ดูแล จึงควรได้รับการดูแลต่อเนื่องตั้งแต่ระยะฉุกเฉิน ระยะเริ่มฟื้นตัว และระยะฟื้นฟูที่บ้าน เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ นพ.สกานต์ บุนนาค รักษาราชการแทนผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมองแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดสมองขาดเลือด พบได้ถึงร้อยละ 85 เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดทำให้เลือดเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ มักเกิดร่วมกับหลอดเลือดแดงแข็ง สาเหตุมาจากไขมันเกาะผนังหลอดเลือดจนเส้นเลือดตีบแข็ง อีกทั้งภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะทำให้เกิดลิ่มเลือดและหลอดเลือดอุดตันได้ ปัจจัยคือ คอเลสเทอรอลสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อ้วน สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์หนัก ชนิดเลือดออกในสมองหรือเส้นเลือดในสมองแตก เกิดจากหลอดเลือดสมองแตกหรือฉีกขาด ทำให้เลือดรั่วไหลไปในเนื้อเยื่อสมอง จะเกิดได้น้อยกว่าชนิดแรกแต่ความรุนแรงไม่ต่างกัน สาเหตุจากโรคความดันโลหิตสูง เครียด สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์หนัก น้ำหนักมาก ไม่ออกกำลังกาย ตลอดจนภาวะหลอดเลือดสมองโป่งพองและความผิดปกติของหลอดเลือด ซึ่งผู้สูงอายุแต่ละคนอาจมีหลายอาการร่วมกัน เช่น ร่างกายอ่อนแรงหรืออัมพฤกษ์ที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง และเหน็บชาร่วมด้วย มีปัญหาการพูดหรือเข้าใจคำพูดผิดเพี้ยน มีปัญหาทรงตัวและบ้านหมุน สูญเสียการมองเห็นบางส่วนหรือเห็นภาพซ้อน และมึนงงรุนแรง ทั้งนี้ ผู้สูงอายุควรปฏิบัติตัวให้ห่างไกลโรคหลอดเลือดสมอง ดังนี้ รับประทานอาหารมีประโยชน์ ได้แก่ ผัก ผลไม้ ที่มีไฟเบอร์สูง หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รสเค็มจัด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ชีวิต ทำจิตใจให้เบิกบาน ไม่เครียด ที่สำคัญควรควบคุมไม่ให้ความดันโลหิตสูง