เมื่อช่วงสายวันที่ 9 ม.ค.62 ที่ สน.บุปผาราม พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม จับกุมตัวผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ประกอบด้วย นายศิรสิทธิ์ หรือซี เรียงชัยนาม อายุ 35 ปี และ น.ส.รชยาทิพย์ หรือพลอย กนกสิริธนาสิริ อายุ 28 ปี ภรรยา พร้อมของกลางยาบ้า 172,000 เม็ด ยาอี 37 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 60.22 กรัม เคตามีนชนิดผงน้ำหนัก 0.53 กรัม และรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โดยจับกุมตัวได้ขณะนายศิรสิทธิ์ ขับรถเก๋งของกลางแหกด่านการจับกุมของตำรวจ สน.ท่าพระ ไปหยุดที่สี่แยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ ก่อนขยายผลไปตรวจค้นห้องพักผู้ต้องหาในพื้นที่ สน.คันนายาว
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า ผกก.สน.บุปผาราม ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุสุขสวัสดิ์ (บก.น.8) ว่า มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับหลบหนีการจับกุมของตำรวจ สน.ท่าพระ มุ่งหน้ามาทางถนนประชาธิปก เข้าสู่วงเวียนใหญ่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อุดมพล เอื้อศิลามงคล รอง ผกก.(สส.)สน.บุปผาราม และ พ.ต.ต.สมมาตร วงษ์ดี สว.สส.สน.บุปผาราม นำกำลังฝ่ายสืบสวนออกไปสกัดจับกุมตามแผน จนสามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้ที่แยกบ้านแขก จากการตรวจค้น พบ นายศิรสิทธิ์ เป็นผู้ขับขี่รถและพบของกลางเป็นไอซ์ และเคตามีนชนิดผง ซุกซ่อนอยู่ภายในรถด้วย จากการสอบสวนเจ้าตัวยอมรับเบื้องต้นว่า มียาเสพติดทั้งหมดไว้เพื่อเสพ แต่ชุดจับกุมไม่เชื่อคำให้การเนื่องจากตรวจสอบประวัติพบ เคยต้องโทษคดีค้ายาบ้าในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ติดคุกนาน 12 ปี เพื่อออกจากเรือนจำมาเมื่อปี 2557 จึงทำการสอบสวนเพื่อขยายผลอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งนายศิรสิทธิ์ ยอมรับสารภาพว่า ปัจจุบันไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่รับจ้างส่งยาเสพติดให้เอเย่นต์รายใหญ่จากทางภาคเหนือ โดยการรับคำสั่งจากเอเย่นต์ทางโทรศัพท์ให้ไปรับของกลางยาเสพติดชนิดต่างๆ ซึ่งมีผู้นำมาทิ้งไว้ริมถนนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะนำไปพักไว้ที่ห้องภรรยานอกสมรส ชื่อ น.ส.รชยาทิพย์ หรือพลอย กนกสิริธนาสิริ อายุ 28 ปี ที่คอนโดมิเนียม ในพื้นที่ สน.คันนายาว เพื่อรอรับคำสั่งอีกครั้งจะให้แบ่งนำของกลางไปโยนไว้ให้ลูกค้าในพื้นที่ใดๆ จากการเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าวพบ น.ส.รชยาทิพย์ อยู่ที่ห้องพร้อม ยาบ้า 172,000 เม็ด และ ยาอี 37 เม็ด ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางสีม่วง เบื้องต้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันมียายาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วน นายศิรสิทธิ์ ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้ขับขี่รถขณะมีสารเสพติดในร่างกายและเสพยาเสพติดให้โทษโดยผิดกฎหมาย อีก 1 คดี ซึ่งจะได้นำของกลางทั้งหมดให้ พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.น.แถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลต่อไป
มีรายงานการสืบสวนทราบว่า สำหรับประวัติของ น.ส.รชยาทิพย์ หรือพลอย กนกสิริธนาสิริ อายุ 28 ปี 1 ในผู้ต้องหาคดีนี้นั้น ที่ผ่านมาไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีใดมาก่อน แต่จากการขยายผลเพื่อหาความผิดตามขบวนการยาเสพติด พบว่า เจ้าตัว เคยมีสามีนอกสมรส จำนวน 2 คน แต่ละคนปัจจุบันล้วนเป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติดต้องโทษอยู่ในเรือนจำทั้งสิ้น โดยขณะนี้ พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.น. กำลังสั่งการให้ชุดจับกุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการสืบสวนขยายผลทางเชิงลึก ว่าอดีตสามีนอกสมรสของ น.ส.รชยาทิพย์ ทั้ง 2 คน ที่ตัวยังอยู่ในเรือนจำนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ถูกยึดไว้ได้หรือไม่ โดย พล.ต.ต.ดาวลอย ขอเวลา 3 สัปดาห์ หากพบมีการขยายผลไปถึงผู้ใดจะเร่งออกหมายจับและแถลงผลการดำเนินการให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า ผกก.สน.บุปผาราม ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุสุขสวัสดิ์ (บก.น.8) ว่า มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับหลบหนีการจับกุมของตำรวจ สน.ท่าพระ มุ่งหน้ามาทางถนนประชาธิปก เข้าสู่วงเวียนใหญ่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อุดมพล เอื้อศิลามงคล รอง ผกก.(สส.)สน.บุปผาราม และ พ.ต.ต.สมมาตร วงษ์ดี สว.สส.สน.บุปผาราม นำกำลังฝ่ายสืบสวนออกไปสกัดจับกุมตามแผน จนสามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้ที่แยกบ้านแขก จากการตรวจค้น พบ นายศิรสิทธิ์ เป็นผู้ขับขี่รถและพบของกลางเป็นไอซ์ และเคตามีนชนิดผง ซุกซ่อนอยู่ภายในรถด้วย จากการสอบสวนเจ้าตัวยอมรับเบื้องต้นว่า มียาเสพติดทั้งหมดไว้เพื่อเสพ แต่ชุดจับกุมไม่เชื่อคำให้การเนื่องจากตรวจสอบประวัติพบ เคยต้องโทษคดีค้ายาบ้าในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ติดคุกนาน 12 ปี เพื่อออกจากเรือนจำมาเมื่อปี 2557 จึงทำการสอบสวนเพื่อขยายผลอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งนายศิรสิทธิ์ ยอมรับสารภาพว่า ปัจจุบันไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่รับจ้างส่งยาเสพติดให้เอเย่นต์รายใหญ่จากทางภาคเหนือ โดยการรับคำสั่งจากเอเย่นต์ทางโทรศัพท์ให้ไปรับของกลางยาเสพติดชนิดต่างๆ ซึ่งมีผู้นำมาทิ้งไว้ริมถนนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะนำไปพักไว้ที่ห้องภรรยานอกสมรส ชื่อ น.ส.รชยาทิพย์ หรือพลอย กนกสิริธนาสิริ อายุ 28 ปี ที่คอนโดมิเนียม ในพื้นที่ สน.คันนายาว เพื่อรอรับคำสั่งอีกครั้งจะให้แบ่งนำของกลางไปโยนไว้ให้ลูกค้าในพื้นที่ใดๆ จากการเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าวพบ น.ส.รชยาทิพย์ อยู่ที่ห้องพร้อม ยาบ้า 172,000 เม็ด และ ยาอี 37 เม็ด ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางสีม่วง เบื้องต้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันมียายาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วน นายศิรสิทธิ์ ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้ขับขี่รถขณะมีสารเสพติดในร่างกายและเสพยาเสพติดให้โทษโดยผิดกฎหมาย อีก 1 คดี ซึ่งจะได้นำของกลางทั้งหมดให้ พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.น.แถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลต่อไป
มีรายงานการสืบสวนทราบว่า สำหรับประวัติของ น.ส.รชยาทิพย์ หรือพลอย กนกสิริธนาสิริ อายุ 28 ปี 1 ในผู้ต้องหาคดีนี้นั้น ที่ผ่านมาไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีใดมาก่อน แต่จากการขยายผลเพื่อหาความผิดตามขบวนการยาเสพติด พบว่า เจ้าตัว เคยมีสามีนอกสมรส จำนวน 2 คน แต่ละคนปัจจุบันล้วนเป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติดต้องโทษอยู่ในเรือนจำทั้งสิ้น โดยขณะนี้ พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.น. กำลังสั่งการให้ชุดจับกุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการสืบสวนขยายผลทางเชิงลึก ว่าอดีตสามีนอกสมรสของ น.ส.รชยาทิพย์ ทั้ง 2 คน ที่ตัวยังอยู่ในเรือนจำนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ถูกยึดไว้ได้หรือไม่ โดย พล.ต.ต.ดาวลอย ขอเวลา 3 สัปดาห์ หากพบมีการขยายผลไปถึงผู้ใดจะเร่งออกหมายจับและแถลงผลการดำเนินการให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป