นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC กล่าวว่า ภายหลังจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ได้ยุติการให้บริการเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2562 เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างใหม่ โดยโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสานหรือมิกซ์ยูส ซึ่งกลุ่มดุสิตธานีได้ผนึกความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN แต่ในส่วนของโรงแรมแห่งใหม่นั้น จะยังคงใช้ชื่อแบรนด์ ดุสิตธานี และบริหารจัดการโดยกลุ่มดุสิตธานีที่ตั้งเป้าจะให้เป็นแฟลกชิพ โฮเต็ล เป็นโรงแรมต้นแบบที่ดีที่สุด ทันสมัยและตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย สำหรับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในอีก 4 ปีข้างหน้า น่าจะกลับมาเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ อีกครั้ง เนื่องจากการพัฒนาโครงการหลังจากนี้ จะเป็นโครงการที่ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ 4 ส่วน ได้แก่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ ที่ยังคงมีเอกลักษณ์ของดุสิตธานีเดิม ไม่ว่าจะเป็นยอดเสาสีทองที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม เปลือกอาคาร ต้นไม้ น้ำตก ห้องอาหารเบญจรงค์ ห้องไลบรารี่ ล็อบบี้ และห้องไทยเฮอริเทจ สวีท ขณะที่อีก 3 ส่วนที่เหลือ จะประกอบด้วย โครงการศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และอาคารพักอาศัย ซึ่งจะเป็นโครงการที่เอื้อประโยชน์ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอย่างแท้จริง ทั้งศูนย์กลางทางธุรกิจ รวมถึงศูนย์กลางในการเชื่อมต่อการเดินทางในระบบขนส่งมวลชนหลักของกรุงเทพฯ ทั้งนี้ นางศุภจี ยังกล่าวต่อว่า นอกจากความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากรในการอนุรักษ์เรื่องราวดั้งเดิมและนำกลับมาอยู่ในโรงแรมใหม่ภายใต้การบริหารจัดการของกลุ่มดุสิตธานีแล้ว ทางบริษัทฯ ไม่มีนโยบายปลดพนักงานแม้แต่คนเดียว โดยมีความตั้งใจให้พนักงานของดุสิตธานีกลับมาทำงานโดยพร้อมเพรียงกันในอีก 4 ปีข้างหน้า ในส่วนของกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการจัดโครงสร้างธุรกิจ รวมถึงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ โดยในปีที่ผ่านมา ได้ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขยายแบรนด์โรงแรมอาศัย เพื่อจับลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียม ที่นิยมการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองและใช้ชีวิตในสไตล์ใกล้ชิดกับชุมชนหรือท้องถิ่น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ขณะเดียวกัน ยังได้ขยายการลงทุนไปสู่การบริหารบ้านพักหรูในรูปแบบลักซูรี่ วิลล่า เพื่อจับตลาดการท่องเที่ยวในระดับบนที่มีไลฟ์สไตล์ความเป็นส่วนตัวสูง และต้องการบริการระดับดีเลิศ ซึ่งประสบการณ์งานบริการของกลุ่มดุสิตธานีสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ในระดับดีเยี่ยม อีกทั้ง นางศุภจี ยังกล่าวว่า ทางบริษัทฯ ยังขยายการลงทุนไปในธุรกิจที่มองเห็นการเติบโต และเป็นแนวที่ดุสิตธานีมีประสบการณ์และมีความถนัด นั่นคือ ธุรกิจอาหาร ผ่านการจัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนในบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด หรือ NRIP ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูป ประเภทอาหารแห้งและเครื่องปรุงรสให้กับลูกค้าทั้งยุโรป อเมริกา ออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ โดยเข้าถือหุ้นสัดส่วน 24.9% พร้อมกันนี้ยังหาโอกาสในการลงทุนใหม่