นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ทิศทางการส่งออกของประเทศไทยในปี 2561คาดว่าจะเติบโตได้ในกรอบ 7-7.3% โดยต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ช่วงต้นปี ที่ 9% โดยภาพรวมการส่งออกเดือนพ.ย. 2561 มีมูลค่า 21,237 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวลง 0.95% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี2560 ส่วน 11 เดือนแรกของปี 2561 (ม.ค.-พ.ย.) ไทยส่งออกรวมมูลค่า 232,725 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่7.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2560 ด้านปี 2562 คาดการณ์การส่งออกของไทยน่าจะเติบโต 5% ภายใต้สมมติฐาน ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.0(+-0.5) บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และมีปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การเป็นประธานอาเซียนของไทย ทำให้ไทยสามารถสร้างความเชื่อมั่น สร้างความเป็นอัตลักษณ์ให้กับสินค้าไทย รวมถึงการผลักดันการเพิ่มความสะดวกทางการค้าและการลดการกีดกันทางการค้า ขณะที่ความเสี่ยงที่อาจเป็นอุปสรรคสำคัญปี2562 ได้แก่ ปัญหาสงครามการค้าการค้าที่ยืดเยื้อ ซึ่งจะต้องติดตามการเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนวันที่ 7-8 ม.ค. 2562, ไทยอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหภาพยุโรป (อียู) เนื่องจากปี 2562 ข้อตกลงอียูกับเวียดนามเริ่มมีผลบังคับ , เหตุจลาจลในกลุ่มประเทศยุโรป , ความผันผวนของราคาน้ำมันและค่าเงินบาท, การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจาก 1.5% เป็น 1.75% ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น และกฎหมายและกฎระเบียบภายในประเทศจะเป็นการกีดกันผู้ประกอบการส่งออกทางอ้อม นอกจากนี้ สรท.ยังมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ คือ ภาครัฐควรส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยจัดกิจกรรม Trade Mission มากขึ้นแยกตามกลุ่มสินค้าและแยกตามกลุ่มประเทศ รวมถึงการสำรวจตลาดใหม่ปี 2562 , ภาครัฐควรเร่งแก้ไขและลดอุปสรรคการค้าระหว่างประเทศ, การผลักดันและเร่งเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และ ผู้ประกอบการไทยควรสำรวจตลาดใหม่เสมอ เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดแรงกระทบจากความผันผวนของสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ