เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.น. แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและปีใหม่ 2562 โดย พล.ต.ต.สุคุณ วันนี้ทาง บช.น แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2562 ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.61 - 2 ม.ค.62 ซึ่งเป็นช่วงที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม และท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก ทาง บช.น จึงให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยมุ่งเน้นการตรวจค้นจับกุมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด และยาเสพติด ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ ได้ผู้ต้องหา 29 คน คดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ 52 คน คดีความผิดพิเศษ เช่น ค้ามนุษย์ ป่าไม้ ทรัพย์สินทางปัญญา เงินกู้นอกระบบ มือปืนรับจ้าง 16 คน จับกุมคดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย 1,024 คน คดียาเสพติด 757 คน คดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด 53 คน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธปืนมีทะเบียน 10 คน อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 37 คน เครื่องกระสุนปืน 6 คน รวมจำนวนอาวุธปืนที่ยึดมาได้จากบ้านพักของผู้ต้องหาตามหมายจับ คดียาเสพติด และ จากการตั้งด่านตรวจในช่วงเทศกาลปีใหม่ สามารถจับกุม อาวุธปืนได้จำนวน 50 กระบอก จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับพลุ ดอกไม้เพลิง 5 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้กว่า 859 คดี ในส่วนของโครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2562 มีประชาชนเข้าร่วม 1,249 หลัง ไม่มีคดีเกิดขึ้น ในส่วนของอาวุธที่ยึดได้ หลังจากนี้จะนำไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่ามีอาวุธปืนที่เคยนำไปใช้ก่อคดีหรือไม่ การระดมครั้งนี้มีคดีที่น่าสนใจ เช่น คดีจับเฮโรอีน น้ำหนักกว่า 80 กก. ในพื้นที่สน.ธรรมศาลา ซึ่งจับกุมได้เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา ตั้งด่านตรวจบนถนนบรมราชนนี ฝั่งขาออก ได้มีคนร้าย 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ขับรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บต 1728 พัทลุง เมื่อเจอด่านตรวจได้ทิ้งรถไว้ริมถนนก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นรถคันดังกล่าวพบเฮโรอีนน้ำหนักประมาณ 80 กก. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลออกหมายจับคนร้ายทั้ง 2 คน อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่านำยาเสพติดมาจากภาคเหนือลงมาภาคกลาง เพื่อไปยังภาคใต้ก่อนส่งไปต่างประเทศ.