TPCH พร้อมรับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก”เต็มพิกัด มั่นใจโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้รับผลกระทบ ยันจ่ายไฟฟ้าตามปกติ แต่ไม่ประมาทประสานข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมให้การช่วยเหลือประชาชนรอบโรงไฟฟ้าของบริษัทที่ได้รับผลกระทบเต็มที่ นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับพายุโซนร้อน"ปาบึก" (PABUK)ที่กำลังเคลื่อนตัวลงอ่าวไทย และจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค.62 บริษัทได้มีการประสานติดตามสถานการณ์ กับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมแผนรับมือ รวมทั้งได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ดูแลส่วนงานโรงไฟฟ้าชีวมวลพื้นที่ภาคใต้อย่าใกล้ชิด ทั้งนี้เบื้องต้นได้รับรายงานว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทที่มีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD)แล้ว 6 แห่ง กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ จำนวนนี้ มีเพียง 4 โรงที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้คือ โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB)จ.นครศรีธรรมราช,โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน(TSG )จ.นครศรีธรรมราช,โรงไฟฟ้าชีวมวลพัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP)จ.พัทลุง และโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP)จ.สตูล ขณะที่อีก 2 โรงคือโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE)และโรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP)อยู่ในจ.นครสวรรค์และสมุทรสาครตามลำดับ โดยบริษัทมั่นใจว่าโรงไฟฟ้าทั้ง 6 โรงจะไม่ได้รับผลกระทบและยังสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติ เนื่องจากทุกโรงไฟฟ้าของบริษัทก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการก่อสร้าง ได้มีการพิจารณาเลือกพื้นที่พร้อมปรับสภาพพื้นที่ตั้งให้อยู่ในที่สูงกว่าระดับเส้นทางคมนาคมหลักไม่น้อยกว่า 50-100 เซนติเมตร ซึ่งจากปัญหาภัยพิบัติที่ผ่านมาทุกโรงไฟฟ้าของบริษัทปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วมมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามบริษัทจะเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัญหาภัยธรรมชาติไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ ทั้งนี้บริษัทพร้อมให้การช่วยเหลือบริจาค อาหาร สิ่งของ ตลอดจนเครื่องใช้ที่จำเป็นให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าของบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทดำเนินการมาทุกครั้งมีภัยพิบัติเกิดขึ้น สำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟาที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 2 โครงการกำลังการผลิตรวมประมาณ 40 เมกะวัตต์และใกล้แล้วเสร็จนั้น มั่นใจว่าจะไม่ได้ผลกระทบจากพายุโซนร้อน"ปาบึก" โดยจะสามารถดำเนินการ COD ในช่วงปี 2562 ได้ตามแผน ทั้งนี้บริษัทยังพร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศมี 2 โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ และใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งตามแผนจะมีการ COD ในช่วงปี 2562กำลังการผลิตรวมประมาณ 40เมกะวัตต์ ส่วนโดยในส่วนการลงทุนโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาโดยจะเน้นเรื่องความคุ้มทุนเป็นสำคัญ