กนอ. โชว์ความพร้อมการให้บริการเอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ ด้วยแพรตฟอร์ม4 โซลูชั่น ผ่าน 10 “ศูนย์ SMEs–ITC”ทั่วประเทศในนิคมอุตสาหกรรม 10 แห่ง เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยต่อยอดการผลิต ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างผลงานใหม่ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมขั้นสูงรับฐานการผลิตใหม่ของอุตสาหกรรม ในยุทธศาสตร์ไทยแลนด์4.0 น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย กนอ.พร้อมให้การสนับสนุนในทุกกลุ่มเป้าหมาย นอกจากอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่แล้วยังให้ความสำคัญกับวิสาหกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้งระบบ ด้วยการพัฒนาโซลูซั่น เพื่อให้SMEs เข้ามาเพื่อเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆด้วยนวัตกรรมต่างๆผ่านการให้บริการของศูนย์ SMEs Industry Transformation Centerหรือศูนย์ SMEs–ITCที่กระจายอยู่ทั่วประเทศในที่นิคมอุตสาหกรรม 10 แห่งที่มีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วได้แก่นิคมฯแหลมฉบัง,นิคมฯภาคเหนือ (ลำพูน),นิคมฯบางชัน,นิคมฯลาดกระบัง,นิคมฯปะอิน,นิคมฯมาบตาพุด,นิคมฯภาคใต้,นิคมฯสมุทรสาคร และนิคมฯเกตเวย์ซิตี้ ด้วยแพลตฟอร์ม(Platform)ต่างๆที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการ เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs ไทยสามารถต่อยอดนวัตกรรมและงานวิจัยไปสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ทั้งนี้การให้บริการของศูนย์ SMEs–ITCประกอบไปด้วยแพลตฟอร์มบริการในด้านต่างๆทั้งการให้บริการด้านต่างๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการพัฒนาองค์ความรู้กับผู้ประกอบการ ผู้ผลิต นวัตกรรม และงานวิจัย เช่น การให้คำปรึกษาแนะนำแก้ไขปัญหาธุรกิจ การต่อยอดนวัตกรรม และงานวิจัย การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคนิคด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยบริษัทที่เป็นBig brother ในนิคมฯเช่น การให้ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยี การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การบริกหารจัดการ การดำเนินงานด้านระบบซอฟท์แวร์ ฯลฯ นอกจากนี้ศูนย์ดังกล่าวจะพัฒนาเป็น Co-Working Space หรือเป็นพื้นที่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีการนำ เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อใช้ผลิตชิ้นงานต้นแบบเชิงอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักรที่ช่วยขึ้นรูปงานต้นแบบด้วยเทคโนโลยี(3D Printer)ทั้งโลหะ โพลีเมอร์ และเรซินต่างๆ เครื่องขึ้นรูปงานพลาสติกด้วยเครื่องฉีดพลาสติกขนาด 20-150 ตัน เครื่องเป่าลมพลาสติก เครื่องผสมเม็ดพลาสติก เครื่องกึ่งอัตโนมัติ (CNC)และต้นแบบของ Learning Factory เป็นต้น ซึ่งขณะนี้แต่ละพื้นที่ได้พร้อมให้บริการด้านความช่วยเหลือ และสนับสนุน ตลอดจนการให้คำปรึกษาในด้านต่างๆเช่น การวางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ กระบวนการผลิต และแผนการตลาดเป็นต้น สำหรับศูนย์ SMEs–ITC ยังเป็นศูนย์กลางความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่มีความชำนาญด้านการออกแบบและวิศวกรรม ทั้งจากผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก สถาบันเครือข่ายผู้ประกอบการ สมาคมอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษาต่างๆเข้ามาสนับสนุน และพร้อมให้บริการแก่ภาคเอกชน นับเป็นแนวทางที่สำคัญต่อการยกระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็กของไทย โดยเฉพาะสตาร์ทอัพที่พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีทั้งในปัจจุบันและอนาคต สอดรับกับตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0