วันที่ 1 มกราคม 2562 นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ ยอดสะสมรวม 5 วัน (ระหว่างวันที่ 27-31 ธันวาคม 2561) มีจำนวนทั้งสิ้น 6,253 คดี โดยวันที่ 5 ที่มีการควบคุมเข้มงวด มีคดีเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ จำนวน 2,660 คดี จำแนกเป็น 1.คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 2,649 คดี คิดเป็นร้อยละ 99.5 (ยอดสะสม 5 วัน จำนวน 5,766 คดี) 2.คดีขับเสพ จำนวน 9 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.33 (ยอดสะสม 5 วัน จำนวน 446 คดี) 3.คดีขับรถประมาท จำนวน 2 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.07 (ยอดสะสม 5 วัน จำนวน 39 คดี) 4.คดีขับซิ่ง ไม่มีคดีเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ (ยอดสะสม 5 วัน จำนวน 2 คดี) ส่วนจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุรา สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 187 คดี จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 186 คดี และจังหวัดสกลนคร จำนวน 175 คดี นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งติด EM ในคดีขับรถขณะเมาสุรา โดยมีเงื่อนไขให้รายงานพนักงานคุมประพฤติ พร้อมเข้ารับการอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎจราจร 4 ครั้งมีกำหนด 1 ปี ให้ทำงานบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 24 ชั่วโมง พักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนด 6 เดือน และห้ามออกจากที่อยู่อาศัยของตน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.- 04.00 น. ในระยะเวลา 15 วัน สำหรับสถิติจำนวนยอดสะสม 5 วัน เป็นจำนวน 66 ราย ส่วนวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จังหวัดที่ศาลสั่งติด EM จำนวน 33 ราย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 9 ราย จังหวัดขอนแก่น จำนวน 10 ราย จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 9 ราย และจังหวัดราชบุรี จำนวน 5 ราย อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมคุมประพฤติ ประเดิมติดอุปกรณ์ EM กับผู้ถูกคุมความประพฤติในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราตามคำพิพากษาของศาล จำนวน 7 รายด้วยกัน ณ ศูนย์ควบคุมการติดตามตัวด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมปฐมนิเทศ เพื่อชี้แจงเงื่อนไขสำหรับการปฏิบัติตนในระหว่างที่ถูกคุมความประพฤติ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์ EM และระบบที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจแก่ผู้ถูกคุมความประพฤติ ส่วนสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศจะทยอยติดอุปกรณ์ EM กับผู้ถูกคุมความประพฤติจนครบตามจำนวนที่ศาลมีคำสั่งใช้อุปกรณ์ดังกล่าว