1 ม.ค.62 ที่สำนักงารตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุฆาตกรรม ท้องที่ สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ว่า สภ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ว่าเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2562 เวลาประมาณ 00.10 น. ร้อยเวรสอบสวนได้รับแจ้งเหตุทางโทรศัพท์ว่ามีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 86 ม.8 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วยผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ. ธานี นาคหกวิค ผกก.สภ.พะโต๊ะ แพทย์เวรและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เดินทางไปที่เกิดเหตุ ภายในบ้านพบศพผู้เสียชีวิต 7 คน สภาพศพผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืน และพบผู้บาดเจ็บ 1 คน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ร่วมกับแพทย์ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปรักษาที่โรงพยาบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ทำบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุพอสังเขป และร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้หาข้อมูลเบาะแส และพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีเพิ่มเติม ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์และผู้เสียชีวิตในครั้งนี้
สำหรับในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ และพยานแวดล้อมไว้แล้ว และได้ส่งศพไปชันสูตร เพื่อพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง สำหรับสาเหตุการฆาตกรรมในครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากมีปากเสียงทะเลาะกันภายในครอบครัว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับให้พนักงานสอบและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความละเอียดรอบครอบ รวดเร็ว ตามกรอบของกฎหมายและเวลา อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาควบคุมดูแลให้เกิดความรัดกุมทางคดี เมื่อมีความคืบหน้าทางคดีเพิ่มเติมจะรีบรายงานให้ทราบ
สำหรับในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ และพยานแวดล้อมไว้แล้ว และได้ส่งศพไปชันสูตร เพื่อพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง สำหรับสาเหตุการฆาตกรรมในครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากมีปากเสียงทะเลาะกันภายในครอบครัว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับให้พนักงานสอบและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความละเอียดรอบครอบ รวดเร็ว ตามกรอบของกฎหมายและเวลา อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาควบคุมดูแลให้เกิดความรัดกุมทางคดี เมื่อมีความคืบหน้าทางคดีเพิ่มเติมจะรีบรายงานให้ทราบ