ภายหลังน้ำจากแม่น้ำปัตตานีเออล้นข้ามสันเขื่อนเข้าพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลารวมกับมวลน้ำจากแม่น้ำสายบุรีหนุนสูงขึ้น ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอน้ำท่วมเส้นทางหลักหลายเสาย ขณะที่ อ.เบตง จ.ยะลา ได้รับผลกระทบในการขนส่งเครื่องอุปโภค บริโภค บางชนิด ขาดตลาด เนื่องจากรถไม่สามารถขนส่งได้โดยเฉพาะผักสด
วันที่ 29 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พื้นที่อำเภอรอบนอกของจังหวัดยะลา ทั้ง 10 ตำบล มีน้ำท่วมโอบล้อมตัวเมืองในเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดยะลา ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดยะลา ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567ที่ผ่านมา ตามที่ได้มีฝนตกหนักถึงหนักมากอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2567 ปริมาณฝนสะสม ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง และดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่จังหวัดยะลา ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประกอบด้วย (อ.เมืองยะลา อ.บันนังสตา อ.ยะหา อ.รามัน และ อ.กาบัง) 45 ตำบล 26,565 หมู่บ้าน 27 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 27,425 ครัวเรือน 107,741 คน อพยพ 63 ครัวเรือน 275 คน ถนน 95 สาย สะพาน 10 แห่ง และเสาไฟฟ้า 6 ต้น โดยล่าสุด เช้าวันนี้ (29 พ.ย.67) ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว
ส่วนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงมีฝนตกไม่มากนักท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนปกคลุมขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมแล้วโดยวันนี้ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ผักสดหลายชนิดขาดตลอดทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนโดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านขายแกง ต่างไม่มีผักสดมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร บางร้านถึงกับปิดร้าน แม่ค้าผัก เผย ผักสดช่วงนี้ไม่มีมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เนื่องจากรถขนผักสดจากภาคกลางและจาก อ.หาดใหญ่ ไม่สามารถขนส่งผักสดมาได้ ขณะที่ผักสดในพื้นที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
ขณะที่หลายหน่วยงานได้เข้าสำรวจความเสียหายหลังจุดเกิดเกิดเหตุดินสไลด์ ทำให้เสาไฟฟ้าล้มขวางถนนปิดเส้นทาง และต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่น ล้มทับหลังคาบ้านของของชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา ได้รับความเสียหายหลายครัวเรือน ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้าน พากันวิ่งแตกตื่นหลบหนีออกมา เบื้องต้นพบหลังคาแตกหัก ในบ้านมีเศษกระเบื้องกระจัดกระจาย ข้าวของได้รับความเสียหายบางส่วน รวมไปถึงบ้านของเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
ซึ่ง นายวิรัต แซ่ตัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาเนาะแมเราะ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ อบต. และ ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ สภ.เบตง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตัดกระแสไฟฟ้า เตรียมนำซากต้นไม้ที่หักโค่นล้มออกจากจุดเกิดเหตุ เปิดเส้นทางให้สัญจรได้ปกติ พร้อมประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระวังอันตราย โดยเฉพาะฝนตก และน้ำท่วมฉับพลัน พร้อมกันนี้สำรวจรายชื่อชาวบ้านเพื่ออพยพชาวบ้านในจุดเสี่ยง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงออกจากพื้นที่ เพราะอาจเกิดเหตุซ้ำ
ด้านนางสุมณฑา สระแก้ว ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าขณะกำลังทำอาหารที่ห้องครัว ได้ยิงเสียงดังมากจากหน้าบ้าน จึงออกมาดู ปรากฏว่ามีต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้านแล้ว หน้าบ้านก็มีเสาไฟฟ้าล้มขวางถนนจึงได้ประสานทาง อบต.เข้าตรวจสอบ ซึ้งก่อนหน้านี้เคยมีหินถล่มลงมาหน้าบ้าน แต่ไม่ถึงตัวบ้านเท่ารอบนี้