ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามแผนงานการแก้ปัญหาแหล่งน้ำพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ณ โครงการคลองระบายน้ำคลองเปรม ต.วัดสน อ.ระโนด จ.สงขลา ซึ่งโครงการคลองระบายน้ำคลองเปรมพร้อมอาคารประกอบ จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภค-บริโภคและภาคการเกษตรช่วงฤดูแล้ง และประสบปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ในช่วงฤดูน้ำหลากปัจจุบันกรมชลประทานอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาคลองระบายน้ำฯ ความยาว 2.5 กม. ให้สามารถรองรับอัตราการระบายน้ำในอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 10 ลบ.ม./วินาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับน้ำและส่งน้ำสนับสนุนไปยังคลองพลเอกอาทิตย์กำลังเอกต่อไป


    
จากนั้น รมว.นฤมล และคณะเดินทางต่อไปยังสถานีสูบน้ำสนามชัย อ.สทิงพระ จ.สงขลา เพื่อติดตามความพร้อมการเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ (ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ และอำเภอสิงหนคร) พร้อมทั้งเปิดสวิตซ์เครื่องสูบน้ำประจำสถานีฯ จำนวน 4 เครื่อง เพื่อผลักดันน้ำเค็มจากคลองส่งน้ำออกสู่ทะเลและควบคุมคุณภาพน้ำเหมาะต่อการอุปโภค-บริโภค และภาคการเกษตรอีกด้วย

“สำหรับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดสงขลา กระทรวงเกษตรฯ โดย กรมชลประทาน ได้ดำเนินการวางแผนแนวทางการบริหารจัดการน้ำและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อีกทั้งได้เน้นย้ำทุกภาคส่วนให้ศึกษาแนวทางการบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนครอบคลุมทุกมิติ อาทิ การควบคุมคุณภาพน้ำเค็ม-น้ำกร่อยให้เหมาะสมต่อการใช้งานของประชาชน การส่งเสริมอาชีพ การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้นต่อไป” รมว.นฤมล กล่าว

รมว.นฤมล และคณะ ยังได้เดินทางต่อไปยังหอประชุมรัตนโกสินทร์ (ศาลาประชาคมอำเภอสทิงพระ) ที่ว่าการอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาจากพี่น้องเกษตรกร พร้อมทั้งมอบปัจจัยการผลิตจำนวน 8 รายการ อาทิ โฉนดเพื่อการเกษตร พันธุ์สัตว์น้ำ ต้นกล้า เมล็ดพันธุ์พืช สารชีวพันธุ์ ผลิตภัณฑ์จากยางพารา(รองเท้าบูท) เป็นต้น 


     
ด้านนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มารับฟังความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งในเรื่องน้ำ ปริมาณสัตว์น้ำ และประเด็นอื่น ๆ ด้านการเกษตรที่เกี่ยวข้อง ในนามกระทรวงเกษตรฯ ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงเกษตรฯ จะเดินหน้าสานต่อภารกิจภาคการเกษตรต่อไป เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่พี่น้องให้เป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน
       
ด้าน นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเสริมว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานท้องถิ่นทุกภาคส่วนที่ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ อย่างเต็มที่ และขอให้เดินหน้าปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป