มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ร่วมกัน จัดงานนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวบรวมพระราชประวัติตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์เมื่อครั้งประทับอยู่ ณ วังสระปทุมซึ่งเป็นสถานที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย รวมถึงพระราชจริยาวัตร และพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและประเทศชาติ ทั้งยังเป็นการเผยแผ่เรื่องราวอันทรงคุณค่าโดยถ่ายทอดผ่านการจำลองบรรยากาศวังสระปทุมมาไว้ ระหว่างวันที่ 5-18 ธันวาคม 2559 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน คุณชวลี อมาตยกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า กล่าวว่า สืบเนื่องจากวังสระปทุมจะจัดให้ประชาชนทั่วไปได้ชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้นำเรื่องราวที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์มาจัดแสดงนิทรรศการบรมกษัตริยาธิราชขึ้น ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบเรื่องราว อันทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์ไทยได้อย่างทั่วถึง ทั้งยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์ ด้วยพระวิริยะอุตสาหะและพระราชจริยาวัตรของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีทศพิธราชธรรม เป็นแบบอย่างที่ประเสริฐแห่งการดำรงชีวิตที่ดีงามตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติ รวมถึงพระราชประวัติตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ และประทับอยู่ที่พระตำหนักใหม่ วังสระปทุมซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในพระชนม์ชีพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ดังที่พระองค์รับสั่งไว้ว่า ทรงรู้จักประเทศไทยได้เพราะสมเด็จย่าของพระองค์ นอกจากวังสระปทุมจะเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าแล้ว ยังเป็นสถานที่แห่งแรกที่เสด็จอยู่ในประเทศไทยหลังจากที่เสด็จพระราชสมภพที่สหรัฐอเมริการะหว่างปี พ.ศ.2471-2476 อีกด้วย ทั้งนี้หลังจากจบงานนิทรรศการบรมกษัตริยาธิราชแล้ว หากประชาชนผู้สนใจต้องการ ซึมซับกับเรื่องราวและสถานที่จริงยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าได้ระหว่าง วันที่ 19 ธันวาคม 2559 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560 ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ สำหรับประชาชนทั่วไปเสียค่าเข้าชมท่านละ 150 บาท และนักเรียน/นักศึกษาเสียค่าเข้าชมท่านละ 50 บาท” นิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” เป็นนิทรรศการที่ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช โดยทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เสด็จครองสิริราชสมบัติยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย และยืนนานกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดของนานาประเทศ นับแต่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อ พ.ศ.2489 จนถึง พ.ศ.2559 รวมระยะเวลายาวนานถึง 70 ปี ซึ่งภายในงานนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 4 ภาค ได้แก่ 1.ปฐมนิวาสราชสถิต ภาคแห่งการแสดงพระราชประวัติ พระราชจริยาวัตร เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องด้วยวังสระปทุมซึ่งเป็นที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย 2.พิพิธราชกรณีย์ เป็นภาคที่ประกอบด้วยเรื่องการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการที่ยังประโยชน์แก่ประเทศและปวงชนชาวไทยตลอดจนมนุษยชาติ 3.ราชสดุดีสรรพสกล ภาคแห่งสาระเกี่ยวกับการถวายราชสดุดี และ4.มหาภูมิพลปรมานุสาสน์ ภาคแห่งการประมวลพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่พสกนิกร ภายในงานนิทรรศการยังจะได้ชมการจำลองภาพโฮโลแกรม 3 มิติของรถเข็นที่ทรงเล่นเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ รวมถึงรางวัลที่ทรงได้รับการถวายราชสดุดีพระเกียรติคุณพระเกียรติยศ ให้ได้ชมราวกับภาพเสมือนจริง นอกจากนั้นมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าจะมีการแจกโปสการ์ดพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาชมยากให้แก่ ผู้มาร่วมชมนิทรรศการทุกวันวันละ 9,9999 ภาพอีกด้วย