จากกรณีลูกชายป่วยจิตเวชคลั่ง ก่อเหตุสลด ใช้มีดพร้าฟันแม่เสียชีวิต ก่อนขับรถจักรยานยนต์ไปโรงพักเข้ามอบตัวกับตำรวจ เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ฐานฆ่าบุพการี ต้องระวางโทษประหารชีวิต
วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2567 นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ต้องหาซึ่งมีอาการป่วยทางจิตได้เกิดอาการคุ้มคลั่ง ใช้มีดพร้าฟันผู้เป็นแม่หลายแห่งจนถึงแก่ความตาย จำเป็นอย่างยิ่งที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะต้องเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาตามกฎหมาย
จึงได้ประสานความร่วมมือกับ นางสาวกานต์สินี สุขสม ยุติธรรมจังหวัดพังงา โดยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ประจำจังหวัดพังงา ซึ่งมี นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุม ครั้งที่ 7/2567 ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ทายาทผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) เป็นเงินจำนวน 110,000 บาท
นางสาวเอมอรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายในคดีอาญา หรือเหยื่ออาชญากรรม ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ย่อมมีสิทธิได้รับการคุ้มครอง เยียวยาตามกฎหมาย ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายเหล่านี้ ตามหลักกฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรม และพร้อมที่จะยืนเคียงข้าง "ผู้บริสุทธิ์" และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง