วันที่ 29 มิถุนายน 2567 ชาวบ้านคอนโดบ้านสวนริมน้ำ ซอยพระราม 2 ซอย 33 แยกย่อยซอยที่ 7 ร้องสื่อถึงปัญหาของเด็กวัยรุ่นมารวมตัวกันทุกวันส่งเสียงดังทำให้เกิดความเดือดร้อน เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ( วันที่ 28 มิถุนายน 2567 ) ในช่วงเวลา 23.46 น. ยังเกิดการทะเลาะวิวาทกันถึงกับยกพวกนับ 10 คน พร้อมอาวุธครบมือมีทั้งมีด ทั้งไม้ รวมทั้งมีอาวุธปืน และระเบิดปิงปอง เข้ามารุมทำร้ายกันเหมือนกับในหนังสงครามสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ภายในคอนโดแห่งนี้ เกรงว่าคนแก่และเด็ก รวมทั้งผู้ที่อยู่อาศัยจะโดนลูกหลงไปด้วย
จึงฝากวิงวอนให้เจ้าหนาที่ตำรวจในพื้นที่ และหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยลงมาสอดส่องดูแล และช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับชาวบ้านตาดำๆที่เป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ รวมทั้งคนชรา แล้วยังมีลูกเด็กเล็กแดง ที่เขาไม่ได้รู้เรื่องและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวด้วยไม่อยากให้ลูกบ้านคนไดต้องมาตกเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ที่วัยรุ่นก่อเหตุตีกันภายในบริเวณคอนโดดังกล่าว หรือจะต้องรอให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายก่อนเจ้าหน้าที่ถึงจะเข้ามาดูแลอย่างนั้นหรือ
เมื่อผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องราวร้องเรียนจากประชาชนภายในคอนโดบ้านสวนริมน้ำ ซอย พระรามที่ 2 ซอย 33 แยกย่อยซอยที่ 7 ถนน พระรามที่ 2 แขวง บางมด เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องราวความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทันที ก็พบกับตัวแทนของชาวบ้านและนิติบุคคลของอาคารดังกล่าว ได้พาไปชี้จุดที่กลุ่มวัยรุ่นที่มารวมตัวกันอยู่บ่อยๆตรงบริเวณด้านหลังของคอนโดซึ่งเป็นสวนสาธารณะและเป็นสนามเด็กเล่นอยู่บริเวณริมคลอง จะเป็นจุดที่กลุ่มวัยรุ่นมารวมตัวกันทุกเย็นในช่วงเวลา 15.00 น. - 16.00 น. แทบทุกวันแล้วจะรวมตัวกันขนมืดค่ำดึกดื่น แล้วก็จะมีการพกพาอาวุธเข้ามาภายในพื้นที่ด้วยและจะมีการนำอาวุธที่พกมาไปซุกซ่อนตามซอกมุมต่างๆแม้กระทั้งใต้รถเข็นขายของของชาวบ้านภายในคอนโดแห่งนี้เองแก๊งวัยรุ่นดังกล่าวก็จะนำอาวุธไปซุกซ่อนเอาไว้ด้วย
จากการเดินสำรวจตรวจสอบของผู้สื่อข่าวโดยมีการนำทางของชาวบ้านจึงพบอาวุธเป็นมีดดาบยาวประมาณ 1 เมตรครึ่ง ปลายด้ามพันด้วยผ้าเทปพันสายไฟสีแดงและสีดำ ถูกว่างซุกซ่อนอยู่ใต้รถเข็นขายของ และใกล้กันยังพบกับมีดลักษณะเป็นมีดทำครัวห้อด้วยถุงพลาสติกโดยด้ามสีดำของมีดดังกล่าวโผล่ออกมา วางซุกซ่อนเอาไว้บริเวณท่อน้ำซึ่งมีดทั้งสองเล่มถูกวางเอาไว้ไม่ห่างกันมาก
และจากเหตุการณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาในช่วงเวลา 23.46 น. ดูจากทางคลิปวีดีโอที่ชาวบ้านที่พักอาศัยภายในอาคารดังกล่าวถ่ายเอาไว้ได้ ก็จะเห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน ขับขี่จักรยานยนต์กันเข้ามาภายในพื้นที่ของคอนโดโดยแต่ละคนจะถืออาวุธ มีด ไม้ ขวด และบางคนมีการถืออาวุธที่ดูแล้วคล้ายปืน อีกด้วย โดยทั้งสองกลุ่มส่งเสียงดังลั่นท้าทายกันไปมา และชาวบ้านบางคนยังได้ยินเสียงคลายอาวุธปืนดังขึ้น 1 ครั้ง อีกด้วย แล้วหลังจากนั้นก็วิ่งไล่กันไปมา ชาวบ้านที่อยู่ภายในคอนโดดังกล่าวต่างก็หวาดผว่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหวั่นลูกหลานของตนเองจะถูกลูกหลงไปด้วย และก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของตนเองถ้าเกิดยังปล่อยเอาไว้แบบนี้
จากการสอบถาม นางฐานาวดี เตี้ยงาม อายุ 74 ปี เป็นลูกบ้านของคอนโด กล่าวว่า ยายได้ยินแต่เสียงเขาตีกันเสียงดังแต่ยายแต่ยายก็ไม่ทราบว่าพวกไหนพวกใครปรกติเขาก็กินกันอยู่ทุกวันอยู่แล้วแต่เสียงก็ไม่ดังถึงขนาดนี้ตอนประมาณ5ทุ่ม ยายอาศัยนอนหลับตอนช่วงหัวค่ำก็ไม่หลับ เสียงมันดังอยู่ตลอดเลยเอ้าเดี๋ยวเด็กเล่นกันบ้างเดี๋ยวผู้ใหญ่กินกันคุยกันไอ้เราก็ไม่อยากจะว่านะเพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติก็ปล่อยเขาแต่เมื่อคืนนี้มันผิดปกติเลยไม่รู้ตีกันให้เจี้ยวจ้าวกันไปหมดแล้วก็มอเตอร์ไซค์แล่นเข้าแล่นออกกันเยอะยากก็ไม่ได้โผลออกมามองแล้วหลังจากนั้นยายก็ไม่ได้หลับเลยหวาระแวงกลัวเลยแล้วยายอยู่คนเดียวยายก็ต้องประคองตัวไม่ให้ล้มไม่ให้อะไรเพื่อนบ้านเขาก็ดีเขาก็บอกว่ามีอะไรก็ให้บอกเขาเราเองก็เกรงใจเขา แล้วมันไม่ใช่กลางวันมันยามวิการแล้วเขาก็ต้องหลับนอนพักผ่อนทุกคนเขาก็ต้องมีภาระเขาก็ต้องทำงานทำมาหากินเขาแล้วมาเอะอะเจี้ยวจ้าวกันแบบนี้ทุกวันเลยเหตุการวัยรุ่นตีกันก็นานๆจะมีคนั้งนึงแล้วก็เงียบหายไป แล้วแถวนี้ก็จะมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นมารวมตัวกันแล้วก็จะมากันทุกเย็น
ส่วนทางด้าน นางสาวนัยน์ทักษร อายุ 63 ปี เป็นกรรมการฝ่ายการเงินนิติบุคคลคอนโด กล่าวว่า มีลูกบ้านมาร้องเรียนว่าเมื่อคืนมีกลุ่มวัยรุ่นมาตีกันอีกแล้วเหตุการณ์ก็น่าจะเกิดจากมากินกันแล้วก็ตีกัน แต่ว่าสาเหตุที่เขามีปัญหากันก็ไม่รู้ว่าเขามีอะไรกัน แต่การที่อยู่รวมกันเราก็อยากให้ที่นี่มีความสงบเพราะทุกคนก็ทำมาหากิน แต่ละวันก็จะมีเด็กวัยรุ่นมาสุมหัวกันข้างคลองเยอะ พอชาวบ้านไปตกปลาอยู่ริมคลองก็จะหาว่าจะไปโทรแจ้งตำรวจ เหมือนหวาดระแวง แล้วก็จะพูดแขวะชาวบ้านตลอด ส่วนใหญ่แล้ววัยรุ่นที่มารวมตัวกันก็จะเป็นเด็กข้างนอกหรืออาจจะมีเด็กข้างในพาเข้ามาก็ไม่รู้ แต่มากินกันแล้วมาก่อเหตุตีกันอย่างนี้มันก็ไม่ถูกเพราะชาวบ้านต้องการพักผ่อนส่วนใหญ่เขาเป็นคนทำงานกัน
ชาวบ้านต่างวิงวอนขอให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยลงพื้นที่ดูแล และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับชาวบ้านภายในคอนโดแห่งนี้ด้วยเพราะเกรงกลัวว่าจะเกิดอันตราย แล้วชาวบ้านที่นี่ต้องการความสงบและความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง จึงฝากสื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวคอนโดแห่งนี้ด้วย