จากกรณีที่ทนายชื่อดังในพื้นที่ จ.ราชบุรี บุกไปประท้วงใช้อุจจาระราดตัว ที่หน้าธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กลอุบายหลอกเอาเงินออกจากบัญชีจนหมดตัวกว่า 1.1 ล้านบาท โดยทนายชื่อดังยื่นคำขาดให้เวลา 2 สัปดาห์หากธนาคารไม่รับผิดชอบจะฆ่าตัวตาย

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่บริเวณหน้าธนาคาร อ.เมือง จ.ราชบุรี ทนายนพ  อายุ 71 ปี ทนายชื่อดัง ได้เดินทางด้วยเท้ามาตามสัญญา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองราชบุรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ กว่า 10 นาย มาเฝ้าสังเกตุการณ์และเฝ้าระวังเหตุ โดยทนายนพได้อ่านแถลงการณ์ เล่าเหตุการณ์ที่ถูกหลอกให้โอนเงิน โดยมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นบริษัทขนส่งพัสดุ ติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท หลังทำเอกสารชำรุด และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพื่อจะคืนเงิน แต่หลังจากดาวน์โหลดแอปฯแล้ว โทรศัพท์ก็มืด ไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงช่องให้สแกนใบหน้าเท่านั้น ก่อนหน้าจอจะดับลงไปนานราว 10 นาที และพบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมดกว่า 1.1 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทนายนพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจไซเบอร์ อ้างว่า ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบแล้ว แจ้งว่าเป็นความผิดของธนาคาร ที่ไม่ติดตั้งระบบป้องกันการแฮ็ก จึงแนะนำให้ฟ้องแพ่งธนาคาร แต่ไม่ยืนยันว่าจะได้เงินคืนครบ แต่อาจได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เพราะเงินไหลออกไปต่างประเทศแล้ว จะคาดหวังให้ตำรวจนำเงินทั้งหมดกลับคืนมาให้คงไม่ได้ พร้อมได้ยึดโทรศัพท์ไว้ เพื่อให้กองพิสูจน์หลักฐานกู้หลักฐานใช้ฟ้องแพ่งกับทางธนาคาร

ทนายนพยังกล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีเงินจะใช้ฟ้องแพ่ง แค่เงินกินข้าวในแต่ละวันก็ยังไม่มี เลยเพราะเงินที่คนใจบุญเคยบริจาคช่วยเหลือมารวม 8,000 บาทหมดแล้ว ส่วนเงินที่ธนาคารเยียวยามาเบื้องต้น 30,000 บาท มองว่า หากรับไว้คงใช้ดำรงชีพได้เพียงไม่กี่วัน จึงตั้งใจจะโอนคืนให้กับธนาคาร

นอกจากนี้ทนายนพ ยังเรียกร้องให้ผู้จัดการธนาคารออกมารับหนังสือแถลงการณ์ พร้อมต้องให้คำตอบทันที ว่า จะคืนเงินทั้งหมดให้หรือไม่ แต่ไม่มีใครออกมาพบ จึงเอาหนังสือวางใว้ที่ประตูทางเข้า เมื่อไม่ออกมาพูดคุย หากไม่คืน ยืนยันจะจัดการตัวเองที่หน้าธนาคาร เพื่อให้ธนาคารได้รับผลกระทบ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องพยายามเข้ามาเกลี่ยกล่อม ระงับเหตุ และพูดคุยให้ทนายนพอย่างใจเย็น และกลับไปรอคำตอบจากทางธนาคารที่บ้าน แต่ทนายนพไม่ยินยอม ตำรวจจึงขอค้นอาวุธ พบเพียงยารักษาโรคเท่านั้น โดยทนายนพ ได้ยืนรอและพูดคุยกับตำรวจที่มาช่วยไกล่เกลี่ยเกือบ 1 ช.ม. แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมารับหนังสือหรือพูดคุยเจรจากับทนายนพแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ทนายนพ จึงทำทีท่ายอมกลับบ้านเดินข้ามถนน และไม่ยอมให้ตำรวจตามประกบตัว เมื่อเดินถึงเกาะกลางถนน หยิบไขควงเย็บกระสอบที่แอบซ่อนไว้ในข้างรองเท้า แทงเข้าที่แขนของตัวเองทะลุจนได้รับบาดเจ็บเลือดไหลจำนวนมาก ทาง ตำรวจจึงเร่งให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลในเบื้องต้นพร้อมทั้งเรียกรถโรงพยาบาลราชบุรีเข้ามาทำการช่วยเหลือ มีเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาช่วยทำแผลและนำตัวขึ้นรถเพื่อส่งส่งโรงพยาบาลรำษาบาดแผลต่อไป