วันที่ 13 มิ.ย.2567 ที่กกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. แถลงถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา   ว่า เมื่อวานได้มีการซักซ้อมผอ.การเลือก สว.ระดับจังหวัด 3 เรื่องคือ ความเรียบร้อย ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน และความเสมอภาคของผู้ปฏิบัติ เพราะกกต.ได้ลงพื้นที่ และเห็นว่า ยังมีการปฏิบัติที่แตกต่างกัน จึงต้องเน้นย้ำ    และข้อสังเกตการณ์ที่พบว่า มีการปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน เช่น การตั้งหีบบัตร ซึ่งมีหลายอำเภอมีกลุ่มอาชีพที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว เมื่อเข้าสู่รอบไขว้ ซึ่งจะมีหีบสำหรับลงคะแนนเพียง 1 กล่อง ของสาย เพื่อให้การลงคะแนนของผู้สมัครเพียงคนเดียวของกลุ่มนี้เป็นความลับ แต่ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อเข้าสู่การเลือกระดับจังหวัดเพราะกลุ่มอาชีพนั้นจะมีผู้สมัครเกินกว่า 1 คน เชื่อว่า เมื่อมีการซักซ้อมกันแล้ว การเลือกระดับจังหวัดจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และจากที่ได้รับความเห็น ข้อเสนอต่างๆ ในระดับอำเภอแล้ว ทางสำนักงานจึงเห็นว่า ในการเลือกระดับจังหวัดนั้น จะกำหนดให้ช่วงเช้าเป็นการเลือกรอบแรก ส่วนการเลือกรอบไขว้ หรือรอบสอง จะดำเนินการในช่วงบ่าย เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในสถานที่เลือก หรือจัดเลือกกลุ่มในช่วงเช้า   จัดเลือกไขว้ในรอบบ่าย และการแนะนำตัวของผู้สมัครก็สามารถทำได้ แต่เน้นให้เป็นระเบียบ ไม่เดินขวักไขว่ 

นายแสวง  กล่าวถึงความผิดว่าในการเลือก  สว. ตามกฎหมายว่า มี 3 ลักษณะ  คือ  1. การรับสมัคร คือรู้ว่า ตัวเองไม่มีสิทธิลงสมัครแต่ก็ยังสมัคร มีการรับรองเอกสารเป็นเท็จ และรับจ้างสมัคร     2. กระบวนการและการดำเนินการ คือการเลือก พบว่า มีความผิดในการลงคะแนน นับคะแนน ซึ่งมีคำร้องที่กกต.กำลังเร่งพิจารณาให้เสร็จก่อนการเลือกระดับจังหวัด รวม 8 เรื่อง และ 3. การเลือกที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม คือการยอมให้พรรคการเมืองมาช่วยหาเสียง   มีการให้เงิน ให้ทรัพย์สิน และมีการร้องเท็จ เรียกรับผลประโยชน์เพื่อเลือก หรือไม่เลือก   

“ซึ่งสิ่งที่  กกต.ทำในเรื่องการสมัคร ที่มีการมองกันว่า มีคนมาสมัครเป็นกลุ่ม ใส่เสื้อสีเดียวกัน   ถ่ายรูปมาจากร้านเดียวกัน    เจ้าหน้าที่ได้มีการสอบถาม ผอ.ได้มีการสอบถามในวันที่มาสมัคร   ว่ามีใครจ้างมาสมัครหรือไม่    จนทำให้บางรายรู้สึกไม่ดี    อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังประมวลผล     ส่วนเรื่องการดำเนินการ หรือการลงคะแนนก็มีการร้องเรียน ซึ่ง กกต.มีการพิจารณาไปแล้วในบางส่วน” นายแสวงกล่าว

เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า สำหรับความไม่สุจริตเกี่ยวกับการฮั้ว ความหมายของคำว่า ฮั้วไม่มีกฎหมายไหนนิยามเอาไว้    แต่กฎหมายที่ใกล้เคียงคือกฎหมายเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ แต่นเรื่องการเลือกตั้ง ก็จะหมายถึงการทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม   ซึ่งในการเลือก สว. เดิมเรามีกฎหมายที่จะใช้ดำเนินการ 2 ฉบับ คือกฎหมายเลือก  สว. และระเบียบที่อยู่ในนิยามของการให้แนะนำตัวได้เท่านั้น ถ้าเกินกว่านี้ไม่ได้  เพราะศาลฎีกาวางแนวทางเอาไว้แล้วว่า การขอคะแนน แลกคะแนนทำไม่ได้   แต่ระเบียบนี้ถูกยกเลิกไป  เหลือเพียงกฎหมายที่เอามาจับได้อย่างเดียว คือ   มาตรา 77 ต้องให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดถึงจะเข้าเงื่อนไขกฎหมาย   ซึ่งถ้าดูพฤติการณ์ที่ผ่านมา ใส่เสื้อสีเดียวกัน บริษัทเดียวกัน ชักชวนกันมา แนะนำตัวเพื่อให้เขาเลือกสามารถทำได้แล้ว   เพราะนิยามการแนะนำตัวตามระเบียบถูกยกเลิกไป ตอนนี้จึงดูได้แต่เพียงว่า เขาได้ทำตามมาตรา 77 หรือไม่


ส่วนเมื่อมีการลงคะแนนแล้วพบว่า ผู้สมัครได้ 0 คะแนน อย่างไรก็ตาม สำนำงานไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยให้จังหวัดตรวจสอบและรายงานมา แต่คงจะไปตรวจสอบจนตั้งเป็นสำนวนไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนดว่า ไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเองก็ได้  ทั้งนี้หากผู้สมัคร หรือประชาชนเห็นว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดมาตรา 77 ก็สามารถร้องเรียนได้ ขณะเดียวกัน กกต.มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่มีการติดตามการเลือก เพราะสำนักงานให้ความสำคัญกับการเลือกที่สุจริตและเที่ยงธรรม

เมื่อถามว่ามีผู้สมัครใช้วิธีการเดินสายร้องเรียนตามที่ต่างๆ โดยมีเจตนาให้คนเองเป็นที่รู้จักถือว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า การแนะนำตัวที่ไม่ผิดระเบียบ หรือกฎหมาย เขาก็สามารถทำได้

เมื่อถามว่ามีการร้องว่า การเลือกระดับอำเภอนั้น ทาง กกต.ติดตั้งกล้องวงปิด มีแค่ภาพ แต่ไม่มีเสียง   อีกทั้งยังเป็นภาพระยะไกล จะทราบได้อย่างไรว่า มีการฮั้วหรือไม่  นานแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้ กกต.ได้ลงไปตรวจสอบติดตาม  และสั่งให้สำนักงานแก้ไขเรื่องการจัดสถานที่สังเกตการณ์การเลือกสว.ระดับจังหวัด    อยู่ใกล้กับสถานที่เลือก สามารถมองเห็นการเลือกและมีกล้องวงจรปิดที่สามารถเก็บเสียงเอาไว้ด้วย แต่พื้นที่สังเกตการณ์จะไม่ได้ยิน   

เมื่อถามว่า มีกรณีการร้องเรียนการเลือกระดับอำเภอในสายที่มีกลุ่มอาชีพซึ่งมีผู้สมัครเพียงคนเดียว และตั้งหีบแยกไว้ จากนั้นมีการขานคะแนนทำให้การเลือกไม่เป็นความลับ  นายแสวง กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลนี้ จึงขอไปตรวจสอบก่อน    ส่วนกรณีบางพื้นที่มีผู้พอเกิดอุบัติเหตุ ก็กำชับเรื่องการจัดสถานที่    ซึ่งเชื่อว่า สถานที่เลือกระดับจังหวัดจะดีกว่าระดับอำเภอ   

เมื่อถามว่ามีคนตั้งคำถามว่า เหตุใดมีคนไม่มีรายชื่อสามาถเข้ารับการเลือกสว.ระดับอำเภอได้นั้น   นายแสวง กล่าวว่า เป็นเพราะบางคนศาลฎีกาคืนสิทธิให้ ทางผอ.การเลือกจึงเพิ่มชื่อเข้าไป  ส่วนระดับจังหวัดที่กำลังจะเลือกนี้ ก็จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม   หากพบใครไม่มีคุณสมบัติ ก็สามารถคัดชื่อออกได้เช่นเดียวกัน    ซึ่งหากใครถูกคัดชื่อออกก็สามารถร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 3 วัน แต่กรณีเช่นนี้มีน้อยมาก 

ด้าน นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวย้ำว่า ผู้สมัคร สว.คนใดถ้าเห็นว่าการเลือกไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต  เที่ยงธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมี 3 กรณีสามารถที่จะร้องคัดค้านได้ตามมาตรา 64  แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นผู้สมัคร ซึ่ง กกต. ก็ไม่ได้ละเลยหน้าที่ในกรณีที่มีคนร้อง ส่วนกรณีผู้สมัครไปร้องการเลือกในต่างอำเภอ กกต. ก็จะยกคำร้องเนื่องจากไม่เป็นไปตามระเบียบสืบสวนของเรา แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ กกต.ที่จะพิจารณาคำร้องนั้นให้เป็นเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎ  ซึ่งการพิจารณาคำร้องของ กกต.เราพิจารณาทุกวัน  ไม่ว่า กกต.จะอยู่ที่ไหน  เราก็จะเรียกประชุม ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคำร้องค้าง  การพิจารณาคำร้องเมื่อพนักงานของเรารับคำร้องแล้วจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน  24 ชั่วโมง หลังจากที่ได้รับคำร้อง  แล้วต้องรายงานให้ กกต.ทราบภายใน  3 วัน   ไม่ต้องกลัวแม้ว่าจะเป็นวันหยุด เนื่องจาก กกต.จะทำงานด้วยความรวดเร็วจะเร่งพิจารณาทุกคำร้อง ซึ่งบัดนี้คำร้องเมื่อวานและวันนี้เราพิจารณาเสร็จแล้ว  เหลือคำร้องพรุ่งนี้

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล มองว่าจะมีการล้มกระดานเลือก สว.ในครั้งนี้นายฐิติเชฏฐ์  กล่าวว่า อันนั้นเป็นการคาดเดา  เราเตรียมแผนไว้แล้ว  ว่าจะดำเนินการอย่าไรหลังจากได้ สว.ตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด  เรามีแผนที่จะดำเนินการในสิ่งนั้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ  ไม่ต้องกลัว

เมื่อถามว่า กกต.ยังมั่นใจใช่หรือไม่ ว่าจะได้ สว. 200 คน เพราะมีการวิเคราะห์สถานการณ์ขณะนี้ว่าจะมี 3 ล้มกระดาน คือล้มพรรคก้าวไกล ล้มนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และล้มการเลือกสว.นายฐิติเชฏฐ์ กล่าว่า อันนั้นเป็นการคาดเดา แต่เรามีแผนไว้แล้วว่าได้ สว. 200 คนไว้แล้ว เราจะดำเนินการอย่างไร   เราจะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ไม่ต้องกลัว