ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ลงพื้นที่ให้กำลังใจและกำชับผู้อำนวยการสถานศึกษา กำหนดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุคนร้ายตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ หลัง สพฐ.มีคำสั่งให้ยกเลิกครูเฝ้าเวรยาม ขณะที่ผลการดำเนินคดีกับข้าราชการ 6 คน ซึ่งมีเอี่ยวขายไม้พะยูงในสถานศึกษา 3 แห่ง พนักงานสอบสวนเรียกสอบพยานเพิ่มอีก 4 ปาก ล่าสุด ร่อนหนังสือไปยังอธิบดีกรมธนารักษ์ เพื่อขอเอกสารประกอบเพิ่มเติม และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
วันที่ 30 มกราคม 2567 ที่โรงเรียนโคกกลางเหนือวิทยาสรรพ์ ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ว่าที่ร้อยตรี สุรสิทธิ์ ถิตย์สมบูรณ์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กาฬสินธุ์ เขต 2 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจผู้บริหาร คณะครู นักเรียน และสอบถามผลการเฝ้าระวัง ป้องกันทรัพย์สินในโรงเรียน โดยเฉพาะไม้พะยูง หลัง สพฐ.มีคำสั่งให้ยกเลิกครูเวร และมีเหตุการณ์คนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนนาดีหลุมข้าววิทยา ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ เมื่อกลางดึกวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งยังเกิดเหตุลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้งในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง
ว่าที่ร้อยตรีสุรสิทธิ์กล่าวว่า หลังมีคำสั่ง สพฐ.ออกมาดังกล่าว ได้ประสานผู้บริหารสถานศึกษา ในเขต สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ทุกแห่ง โดยเฉพาะที่มีไม้พะยูงในโรงเรียน ว่าได้ดำเนินการในส่วนใดบ้าง ซึ่งเบื้องต้นได้รับข้อมูลว่า ยังได้ร่วมกับผู้นำชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน ตามบริบทของพื้นที่ โดยไม่ประมาท
ว่าที่ร้อยตรีสุรสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนมาตรการที่ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ได้มอบเป็นนโยบายให้กับสถานศึกษาในความรับผิดชอบเบื้องต้น มี 2 แนวทาง คือ 1. ลงทะเบียนต้นพะยูงทุกต้น ให้มีการประชุมคณะกรรมการการสถานศึกษา เพื่อออกแบบในเชิงพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อให้มีการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น หรือมีการปรับรูปแบบใหม่ ให้ครูผู้ชาย นักการอยู่เวร หรือจัดหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.มืออาชีพ มาอยู่เวรแทน รวมทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีประสิทธิภาพให้ทั่วถึง และ 2. แต่ละโรงเรียต้องมีเบอร์ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถประสานความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเบอร์ติดต่อที่อัพเดท สามารถติดต่อได้ทันที่ เช่น เบอร์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจตำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์รับแจ้งเหตุในพื้นที่และใกล้พื้นที่ หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย เป็นต้น เพื่อจะได้มีการแจ้งเหตุ หากมีบุคคลแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ หรือหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในวันที่ 2 กพ.ที่จะถึงนี้ ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้บริหารสถานศึกษาสังกัด สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 รวมทั้งทางจังหวัด ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตำรวจรับทราบด้วย เพื่อให้ทราบแนวทางการปฏิบัติเป็นทิศทางเดียวกัน
ด้านนายสมภาร บุดดี ผอ.โรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยาสรรพ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏว่ามีคนร้ายมาลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียน โดยได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียน และใกล้บริเวณต้นไม้พะยูงจำนวน 6 ตัว แต่เมื่อประมาณช่วงเดือนกันยายน ปี 2566 ทราบจากชาวบ้านว่า เวลาประมาณ 18.00 น. มีบุคคลภายนอก เข้ามาตรวจดูต้นพะยูง พร้อมใช้สว่านเจาะดูแก่นไม้พะยูงแล้วออกไป ก่อนที่จะได้ยินข่าวตัดไม้พะยูงในสถานศึกษาหลายแห่ง ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุตัดไม้พะยูงหลายแห่งดังกล่าว ทางโรงเรียน ร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้าน ฝ่ายปกครอง ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้มีการจัดเวรยามเฝ้ารักษา และไม่มีเหตุคนร้ายมาลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนเราแต่อย่างใด
นายสมภารกล่าวอีกว่า ในส่วนคำสั่ง สพฐ.ให้มีการยกเลิกครูเวรนั้น ทางโรงเรียนยังดำเนินการอยู่เฝ้าตามปกติ เพราะครูหลายคนก็เป็นคนในพื้นที่ จึงไม่มีปัญหาในการเดินทางมาอยู่เฝ้าโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ก็ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยตรวจสอบคุณภาพกล้องวงจรปิดทุกตัว ซึ่งยังใช้งานได้ดี นอกจากนี้ยังใช้ภูมิปัญญาทำสัญญาณกริ่งเตือนภัยด้วย ทั้งนี้ ก็ยังรอคำสั่งที่ชัดเจนจากผู้บังคับบัญชา ว่าลำดับต่อไปนี้จะให้ดำเนินการ หรือมีมาตรการอย่างไรต่อไป เพราะทางโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และทุกคนชุมชน พร้อมสนองนโยบายและให้ความร่วมมืออย่างด้วยดี เพราะทุกคนต่างก็มีใจรักษ์และหวงแหนทรัพย์สินของทางราชการและทรัพยากรป่าไม้ทุกต้นอยู่แล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนคดีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ 3 ต้น โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก 9 ต้น และโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี 22 ต้นกับอีก 2 ตอ ซึ่งมีมูลพบว่ามีข้าราชการ 6 คนเกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยในวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ได้เรียกพยานมาสอบปากคำเพิ่มอีก 4 ปาก ซึ่งให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก ล่าสุด ทาง ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้ทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมธนารักษ์ เพื่อขอเอกสารประกอบเพิ่มเพิ่ม และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป