เมื่อวันที่ 22 ต.ค.66  เพจ "สู้ดิวะ" โดย หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ  28 ปี ซึ่งแชร์ประสบการณ์หลังป่วยเป็น "มะเร็งปอดระยะสุดท้าย" ทั้งที่ดูแลสุขภาพอย่างดี ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดย "แอดมินเพจ" ว่า  หลังจากที่หนังสือสู้ดิวะ ได้วางขายได้ระยะหนึ่งมีผู้อ่านหลายท่านส่งกำลังใจพร้อมข้อคิดที่ได้จากการอ่านหนังสือมาทาง inbox page

แต่ตอนนี้คุณหมออาการไม่ค่อยดีนักครับ มะเร็งมีการลุกลามไปทั่วร่างกาย ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเก่า จริงๆคุณหมอวางแผนที่จะไปร่วมงานแจกลายเซ็นที่งานหนังสือ มีการเตรียมการไว้แล้ว แต่เกิดเหตุที่ต้องเข้ารับการรักษาด่วน ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปไหว

วันนี้ผมจะมีโอกาสได้เจอคุณหมอครับ จึงอยากให้โพสนี้เป็นโพสที่รวบรวมสิ่งที่แต่ละท่านได้รับจากการอ่านหนังสือ ‘สู้ดิวะ’ รวมถึงกำลังใจและพลังบวกที่ทุกท่านต้องการส่งต่อให้กับคุณหมอ

สามารถคอมเมนท์ไว้ใต้โพสนี้ได้นะครับ ผมอยากให้คุณหมอได้เห็นว่าหนังสือที่คุณหมอทุ่มเทเขียนได้ทำหน้าที่อย่างที่คุณหมอหวังแล้วจริงๆ

ทั้งนี้หลังโพสต์เผยแพร่มีชาวเน็ตได้เข้ามาคอมเมนต์ให้กพลังใจ หมอกฤตไท กันอย่างล้นหลาม อาทิ 

-  เป็นหนังสือเล่มเดียวในปีนี้ที่พี่อ่านหน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายจบภายในวันเดียว มันไม่ใช่แค่หนังสือที่ดี แต่เป็นหนังสือที่”สำคัญ” ที่มนุษย์ทุกคนควรอ่าน ขอบคุณน้องมากๆที่มอบสิ่งนี้ให้กับโลกครับ สามบทสุดท้ายทำพี่น้ำตาคลอทุกบท อยากที่จะกอดแฟนให้บ่อยขึ้น โทรคุยกับพ่อแม่ให้มาก หัวเราะกับเพื่อนให้เยอะๆ กินอาหารตรงหน้าอย่างมีสติมากขึ้น น้องได้เปลี่ยนชีวิตคนบางคนไปแล้ว ในหนังสือน้องบอกว่า “มันอาจจะมีเหตุผลที่ต้องเป็นกูก็ได้นะ” พี่คิดว่าน้องได้บรรลุเหตุผลนั้นสำเร็จเรียบร้อยแล้วครับ พี่ภาวนาให้โชคชะตาใจดีกับน้องมากๆ เป็นกำลังใจให้นะครับ //จากพี่Med cmu49

- มีผู้อ่านบอกว่าได้รับพลังชีวิตไปมากมายจากตัวหนังสือของคุณ​หมอ ผมอยากบอกว่ามีคนรักคุณหมอมากเหลือเกินครับ ทุกคนทั้งอยากให้กำลังใจและได้รับกำลังใจจากคุณหมอไปพร้อมกัน คุณหมอทำให้เห็นระบบนิเวศ​ของความรัก ส่งมา-ส่งกลับ ให้และรับกันแบบนี้ นี่คือความงามระหว่างที่มีชีวิตอยู่ข้างๆ กันในห้วงเวลาเดียวกันครับ ขอให้คุณหมอมีความสุขกับฟีดแบ็กของหนังสือ มีใจที่มั่นคง และขอให้ร่างกายแข็งแรงนะครับ, ด้วยรักและชื่นชมครับ / พี่เอ๋

 

 

ขอบคุณ เพจ สู้ดิวะ