ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเจเฮงเช็งตั้ว ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานนำการแถลงข่าวโดยประกาว่า ตำบลท่าฉลอม คือ ตำบนเก่าแก่หรือมรดกของจังหวัด ก่อนมอบหนังสือประกาศดังกล่าวให้กับนายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร อ.เมืองฯ โดยมีผู้อำนวยการ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ, รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ (วิทยาเขตสมุทรสาคร) ผู้นำชุมชน และคณะ สื่อมวลชน ร่วมเป็นสักชีพยาน พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ, ศิลปกรรมประจำจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะร่วมดำเนินการพิจารณาแหล่งศิลปกรรมมรดกทางวัฒนธรรม
ผู้ว่าฯสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกของจังหวัดฯสืบด้วยจากเพื่อส่งเสริมและการอนุรักษ์แหล่งศิลปกรรมซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม และมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงไว้อันมีความภาคภูมิใจในความอุดมสมบูรณ์ ที่โดดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ตามหลักเกณฑ์ในการพิจารณามรดกของชาติที่อยู่บนพื้นฐานในการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ตามกฏเกณฑ์การพิจารณาเพื่อเฟ้นหาเป้นชุมชนเก่าของ จ.สมุทรสาคร แห่งแรก ที่ทได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการ (เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2566)
"ทั้งนี้ย่านชุมชนเก่าตำบลท่าฉลอม ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.7 ตารางกิโลเมตร นับว่า เป็นการดำเนินงานตามนโยบายของการอนุรักษ์ฟื้นฟูให้ย่านชุมชนเก่าในภาพรวมของประเทศ จึงได้ประกาศให้เป็นชุมชนเก่าแห่งตำบลท่าฉลอม เพื่อช่วยส่งเสริมคุณค่าและความสำคัญของแหล่งธรรมชาติทางศิลปกรรม ตลอดจนร่วมปกป้องรักษาแหล่งธรรมชาติด้านศิลปกรรมอันเหมาะสม ที่กลมกลืนด้วยสภาพแวดล้อมในพื้นที่"
นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายก ทน.สมุทรสาคร ระบุว่า ชุมชนเก่าตำบลท่าฉลอมนั้นมีความเหมาะสมฐานะแหล่งมรดกจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากท่าฉลอม มีทั้งบ้านสภาพไม้ สังกะสี และก่ออิฐถือปูน แบบศิลปะผสมผสานไทยและจีน มีแหล่งประกอบอาชีพ ตลอดจนมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีวัด 2 วัดอยู่ในพื้นที่ด้วย คือ วัดแหลมสุวรรณาราม ที่เรียกว่า “วัดหัวบ้าน” และ “วัดช่องลม” อีกทั้งอดีตได้รับพระราชทานนามใหม่จากในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้เสด็จมาทอดกฐินต้นและยกช่อฟ้า