วันที่ 16 ก.ค.66 นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีความเคลื่อนไหวผลักดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แข่งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากมีเสียงส.ส.สนับสนุน 250 เสียง ว่า ประเด็นดังกล่าวยังเป็นข่าวเท่านั้น และเมื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไม่ผ่านการโหวตของสภา ถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว จึงเป็นความชอบธรรมของพรรคเพื่อไทย ที่อยู่อันดับ2 ไปคุยกับพรรคร่วมที่เหลือเพื่อรวบรวมเสียงเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ส่วนจะคุยแบบใด มีเงื่อนไขอย่างไร จะใช้สูตรไหน และเสนอใครเป็นนายกฯ เป็นเรื่องของเขาที่จะไปพูดคุยให้ได้ก่อนประชุมร่วมรัฐสภา โหวตเลือกในครั้งที่ 2

“เชื่อว่าเอ็มโอยู 8 พรรค ที่ทำร่วมกันคงเพื่อสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกฯ คงต้องสลายไป เนื่องจาก ส.ว.ไม่เอาพรรคก้าวไกล จึงมาพูดคุยกันตกลงใหม่ ว่าจะมีพรรคใดร่วมอยู่บ้าง และจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ก่อนจะถึงวันโหวตเลือกนายกฯรอบ 2 วันที่ 19 ก.ค.นี้” นายบุญสิงห์ กล่าว

นายบุญสิงห์ กล่าวว่า ส่วนข้อสังเกตว่ามีการมาพูดคุยกับ พปชร.ร่วมรัฐบาล นั้น ตนไม่ทราบ เวลานี้พรรค พปชร.เราจะอยู่นิ่งๆ ดูจังหวะที่จะออกมา และเรื่องใดที่จะช่วยกัน ไม่ให้บ้านเมืองถึงทางตัน มีรัฐบาลบริหารประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้โดยเร็ว ก็ต้องช่วยกัน แต่ต้องไม่สวนทางกับจุดยืนของพรรค พปชร.เรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง และย้ำว่าเราไม่มีเงื่อนไขในการทำงานร่วมกับใคร แต่มีเงื่อนไขไม่เอาพรรคหรือกลุ่มการเมือง ที่จะแก้ไขมาตรา112

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของ พปชร.เตรียมขอเสียงส.ส.จาก 8 พรรค ให้ได้ 250 เสียง เพื่อสนับสนุนพล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ หากมีการเสนอชื่อแข่ง นายบุญสิงห์ กล่าวว่า คงไม่มี เพราะเรื่องการรวมเสียงตั้งรัฐบาล หรือเสนอชื่อนายกฯ เพื่อโหวตในรอบ2 ต้องเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย และก้าวไกล รวมถึงพรรคร่วม ต้องไปพูดคุยตกลงกันเองว่าจะเลือกแนวทางใด